nn เกิดเป็นคำถามที่แวดวงโทรคมนาคม ถามผ่านไปยัง รมต.“บี-พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” รมว.ดีอีเอสที่จู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้สำนักงานวุฒิสภาเริ่มกระบวนการสรรหา คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ชุดใหม่ ตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯปี 2560 เดิมขึ้นมากะทันหัน ทั้งที่กระบวนการยกร่างแก้ไข พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.....ที่ว่าด้วยคุณสมบัติของผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการหน่วยงานของรัฐที่เป็นอิสระแห่งนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของ กมธ.วิสามัญฯที่ยังต้องโม่แป้งกันไปอีกตั้ง 6 เดือน ถึง 1 ปีกว่า จะแล้วเสร็จ…
แต่ รมว.ดีอีเอส ก็อ้างเหตุผลในการเร่งรัดกระบวนการสรรหา กสทช.ชุดใหม่ว่า เป็นไปตามที่ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯพ.ศ...ที่เห็นว่าควรให้ริเริ่มกระบวนการสรรหา กสทช.ชุดใหม่ ควบคู่กันไปกับการพิจารณาร่าง กม.แก้ไข พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ เพราะจำเป็นที่ต้องได้ กสทช.ชุดใหม่ เพื่อมาขับเคลื่อนนโยบายสำคัญๆ อาทิ เทคโนโลยี 5จี การนำสายสื่อสารลงใต้ดิน การประมูลคลื่น 3400-3700 MHz ,Big Data และการจัดทำแผนบริหารจัดการวงโคจรดาวเทียม เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ รมว.ดีอีเอส คงต้องตอบคำถามสังคมต่อการลุกขึ้นมาเร่งรัดกระบวนการสรรหา กสทช.ชุดใหม่ชนิดไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยมาก่อนก็คือ ทำไมจะต้องมาเร่งรัดกระบวนการสรรหา กสทช.ใหม่กันเอาช่วงนี้ ทั้งที่ตาม กม.นั้นยังไงก็ต้องรอกระบวนการแก้ไข กม.เดิมเสียก่อน หาไม่เช่นนั้นก็จะเกิดปัญหาการตีความในเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัครเข้ารับการสรรหา โดยเฉพาะเรื่องหุ้นส่วนหรือประโยชน์ได้เสียตามมาอีก เพราะกฎหมายเดิมนั้นเต็มไปด้วยความคลุมเครือทำให้ต้องมีการสรรหาใหม่กันมาแล้ว
นอกจากนี้ แม้จะสามารถเร่งรัดกระบวรการสรรหากสทช.ใหม่สมใจอยาก (ของใครก็ตาม) สุดท้ายก็ต้องไปกำหนดบทเฉพาะกาลท้าย พ.ร.บ.ฉบับใหม่ เพื่อให้รับรอง/รองรับ กสทช.ที่ได้รับการสรรหาตาม กม.เดิมนี้ตามมา ซึ่งจะว่าไปหากรัฐบาลและกระทรวงดีอีเอส จะใช้วิธีนี้คือดำเนินการสรรหาตาม กม.เดิมไปก่อน ก็น่าจะดำเนินการกันไปตั้งแต่ปีมะโว้โน้นแล้ว ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ประชุมวุฒิสภาโหวตล้มกระบวนการสรรหาชุดก่อนไปแล้ว เพราะสามารถกำหนดคุณสมบัติผู้ที่จะเข้ารับสรรหาใหม่แนบท้าย พระราชกฤษฎีกาได้อยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องประวิงเวลากันมาอีกเป็นปีๆ
ดังนั้นการที่ รมว.ดีอีเอสลุกขึ้นมาเร่งรัดกระบวนการสรรหา กสทช.ชุดใหม่แทนชุดเดิมที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ใช้อำนาจตาม ม.44 สั่งให้ทำหน้าที่ต่อไปแม้จะหมดวาระกันไปตั้งแต่หลายปีก่อน และลากยาวกันมากว่า 6-7 ปีแล้วนั้น…มันคิดเป็นอื่นไปไม่ได้เลย นอกจาก อยากหา “รันเวย์”ให้แก่ใครบางคนที่กำลังจะหมดวาระลง และคงหวังจะกลับมาบิ๊กบึ้มอยู่ในองค์กร กสทช.แห่งนี้
แต่ปัญหาก็คือ หาก ครม.เห็นชอบตามข้อเสนอของ รมว.ดีอีเอสและรัฐบาลแล้ว การที่รัฐบาลเห็นชอบให้สำนักงานเลขาวุฒิสภาริเริ่มกระบวนการสรรหา กสทช.ชุดใหม่ได้หลังจากที่ต้องระงับไปเพราะคำสั่งหัวหน้า คสช.นั่น....มันเป็นการแทรกแซงอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติหรือไม่?
หรือว่านี่คือปาฏิหาริย์ทางกฎหมาย เป็นกฎหมายที่ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อใครบางคนที่กำลังหารันเวย์ลงอย่างเร่งด่วน เพราะสู้อุตส่าห์สร้างผลงานชิ้นโบแดงที่คนเห็นทั่วบ้านทั่วเมือง และประกาศทิ้งไพ่ตายไขก๊อกลาออกจากองค์กรไปแล้ว ด้วยหวังว่า กม.สรรหา กสทช.ใหม่จะทำคลอดทอดสะพานมารับพอดิบพอดี แต่เอาเข้าจริกลับพลิกล็อก จ่อจะต้องหาวเรอรอกันไปร่วมปี ก็เลยต้องเร่งหารันเวย์ลงเป็นการด่วน จริงไม่จริง ท่านว่าที่ประธาน กสทช.!!!!
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี