“จุรินทร์” ระดมสมอง จัดทำยุทธศาสตร์ข้าวไทย เน้น “การตลาดนำการผลิต” สอดรับแนว “เกษตรผลิตพาณิชย์ตลาด”
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2563 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ข้าวไทย ครั้งที่ 1/2563 ณ ห้องประชุมกิติยากรวรลักษณ์ ชั้น 4 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยใช้เวลาการประชุมกว่า 3 ชม.
นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมในเรื่องของยุทธศาสตร์ข้าว เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์ข้าวไทยที่จะต้องใช้ในปี 2563 - 2567 เป็นระยะเวลา 5 ปีโดยเป็นการประชุมร่วมกันของทั้งส่วนภาคราชการ ภาคเอกชน และภาคเกษตรกร รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่ประชุมได้มีความเห็นเบื้องต้นว่าจะใช้ยุทธศาสตร์ "ตลาดนำการผลิต" ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การจัดทำยุทธศาสตร์ข้าวไทย ที่มีความชัดเจนว่าตลาดถือว่ามีความสำคัญและจะเป็นตัวกำหนดการผลิตข้าวไทยต่อไป ในช่วงระยะเวลา 5 ปีถัดจากนี้โดยมีเป้าหมายสำคัญก็คือจะทำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำทางด้านการผลิตการส่งออกข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวคุณภาพของโลก
นายจุรินทร์ กล่าวว่า จะมุ่งเน้นทำการผลิตข้าวเพื่อสนองความต้องการของตลาด คือ ผลิตข้าว 7 ชนิด 1.ข้าวหอมมะลิ 2.ข้าวหอมไทย 3.ข้าวพื้นนุ่ม 4.ข้าวพื้นแข็ง 5.ข้าวนึ่ง 6.ข้าวเหนียว และ 7.ข้าวคุณภาพพิเศษที่มีตลาดเฉพาะ โดยข้าวทั้ง 7 ชนิดนี้จะแบ่งตลาดออกเป็นส 3ตลาด ในภาพรวมคือ 1.ตลาดพรีเมียมประกอบด้วยข้าวหอมมะลิกับข้าวหอมไทย 2.ตลาดทั่วไป ประกอบด้วย ข้าวนุ่ม ข้าวพื้นแข็ง ข้าวนึ่ง 3.ตลาดเฉพาะประกอบด้วยข้าวเหนียวกับข้าวคุณภาพพิเศษ เป็นการจัดระบบภาพรวมในเรื่องของการผลิตข้าวโดยใช้ยุทธศาสตร์ ตลาดนำการผลิต
โดยวันนี้ที่ประชุมได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของเมล็ดพันธุ์ ซึ่งถือว่า เป็นต้นน้ำที่มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะนำไปสู่ผลผลิตข้าวและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าวต่อไป ในห่วงโซ่การผลิตและการตลาด โดยเห็นสอดคล้องกันว่าในเรื่องของเมล็ดพันธุ์ นั้นควรมุ่งเน้นการวิจัยพัฒนาการปรับปรุงพันธุ์ การพัฒนาพันธุ์ และการสร้างพันธุ์ข้าวพันธุ์ใหม่ๆ เพื่อสนองต่อความต้องการของตลาดให้มากขึ้นโดยเป็นเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพและที่สำคัญคือ มุ่งส่งเสริมให้ภาคเอกชนสถาบันวิชาการได้เข้ามามีส่วนร่วมในการวิจัยพัฒนาสร้างพันธุ์ข้าวใหม่ใหม่ขึ้นมาให้มากขึ้นโดยการสนับสนุนของทางราชการ อะไรที่เป็นปัญหาอุปสรรคโดยกฎระเบียบก็จะตัดทอนให้หมด เพื่อทุกฝ่ายจะได้ร่วมมือกันให้พันธุ์ข้าวไทยนั้น สามารถผลิตข้าวคุณภาพไปแข่งขันในตลาดโลกได้รวมทั้งเป็นที่ต้องการของตลาดในประเทศ ส่วนในเรื่องของการตลาดนั้นก็จะมุ่งให้ความสำคัญทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ โดยหัวใจสำคัญประการ 1.เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการค้าข้าวไทยเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกกับประเทศคู่แข่งสำคัญหลายประเทศที่เพิ่มมากขึ้นผู้ประกอบการก็จะประกอบด้วยโรงสี อุตสาหกรรมแปรรูป และผู้ส่งออกข้าวของไทย
“ต้องยอมรับว่าพอลงลึกไปจะพบปัญหาอุปสรรคหลายประการไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของต้นทุนการส่งออก การขนส่ง ขั้นตอนกระบวนการ เพื่อให้เราแข่งขันในตลาดโลกได้ภายใต้คุณภาพข้าวไทยและผลิตภัณฑ์ข้าวไทยที่เรามุ่งเน้นในเรื่องยุทธศาสตร์ข้าว 5 ปีนี้ แต่ทั้งหมดยังมีรายละเอียดเพิ่มเติม จะมีการนัดประชุมอีก 2-3 ครั้งโดยหลักการก็คือ ขอให้การประชุมหารือทุกครั้งจะต้องมีผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมทั้งหมดให้ครบทุกภาคส่วน ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน และภาคเกษตรกรผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ รวมถึงภาควิชาการทั้งหมด” นายจุรินทร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคณะอนุกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ข้าวไทย มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นประธาน นั้น กรรมการประกอบด้วยผู้บริหารกรมและกระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และมีสมาคมค้าข้าวไทย สมาคมชาวนาข้าวไทย สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทยสมาคมผู้รวบรวมและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ข้าว สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย สมาคมโรงสีข้าวไทย สภาเกษตรกรแห่งชาติ และกรรมการกลางศูนย์ข้าวชุมชนระดับประเทศ เป็นต้น โดยอนุกรรมการฯนี้มาจากคำสั่งแต่งตั้งของคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติซึ่งมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานและลงนาม
หลังการประชุม ด้าน นายปราโมช เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและกรไทย นายธีรวิทย์ พรพันรวิช สมาคมชาวนาภาคอีสาน นายอัษฎางค์ ศรีหราช ประธานกรรมการกลางศูนย์ข้าวชุมชนระดับประเทศ กล่าวขอบคุณและสนับสนุนนโยบายประกันรายได้เกษตรกรว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งและอยากให้รัฐบาลทำอย่างต่อเนื่องด้วย
รายงานการประชุมระบุว่า สำหรับยุทธศาสตร์ข้าวนั้นเป้าหมายคือให้ประเทศไทยเป็นผู้นำการผลิตและการส่งออกข้าว ให้พัฒนาข้าวให้ตรงกับความต้องการของตลาด สร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัย สร้างทีมขายขยายตลาดและสามารถแข่งขันได้ ด้านการตลาดในประเทศ มุ่งรักษาคุณภาพข้าวและสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภค สร้างเสถียรภาพด้านราคาพัฒนากลไกซื้อขายข้าวให้ได้มาตรฐาน พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพิ่มช่องทางการจำหน่ายและความต้องการบริโภค ส่วนทางด้านการผลิต ให้พัฒนาชาวนาให้มีความเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้ บริหารจัดการด้านการผลิตข้าวมีประสิทธิภาพและความต้องการของตลาด เน้นการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวและการผลิตข้าวให้สามารถแข่งขันได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี