เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2563 สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก) หรือ สรท. แถลงสถานการณ์การส่งออกที่ สรท. นางสาวกัณญภัค ตัณติพิพัฒน์พงศ์ ประธาน สรท. กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกในช่วงเวลาที่ผ่านมายังคงเป็นติดลบ อันเนื่องจากภาวะความผันผวน และผลกระทบจากภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้การภาคการส่งออกหยุดชะงักไป ขณะที่มาตรการล็อกดาวน์ของประเทศต่างมีผลต่อภาคนำเข้า ทำให้ผู้บริโภคไม่มั่นใจและส่งผลต่อภาคการจับจ่าย ทั้งนี้หากการแพร่ระบาดยังไม่จบจะทำให้บรรยากาศโดยรวมยังไม่ดีขึ้น
“ในช่วงไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 มองว่าผู้ประกอบการจะต้องมีการปรับตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยสิ่งที่น่าเป็นกังวลใจ คือ ตลาดตะวันออกกลาง ถือเป็นตลาดหลักในการส่งออกของประเทศไทย ปัจจุบันยังล็อกดาวน์ประเทศอยู่ ในส่วนของตลาดอาเซียน เช่น ญี่ปุ่น น่าจะมีการส่งออกอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คาดว่าการส่งออกจะมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป”นางสาวกัณญภัค กล่าว
อย่างไรก็ตาม การส่งออกของไทยมีปัจจัยบวกสำคัญเพียงปัจจัยเดียว ได้แก่ การส่งออกในกลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูปและอาหาร และสินค้ากลุ่มเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง อาทิ ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแปรรูป และอาหารกระป๋อง แปรรูป เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ผู้บริโภคมีอุปสงค์ในสินค้าอาหารเพื่อดำรงชีพช่วงการกักตัวและการฟื้นฟูเพิ่มขึ้น
ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่อาจเป็นอุปสรรคสำคัญที่มีผลกระทบต่อภาคการส่งออก ได้แก่ 1.การหดตัวของอุปสงค์จากคู่ค้าต่างประเทศและอุปทานการผลิตภายในประเทศยังไม่ฟื้นตัวส่งผลให้ภาคธุรกิจได้รับผลกระทบและอาจถึงขั้นต้องปิดกิจการ ทำให้เกิดภาวะหดตัวทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงของการส่งออก 2.ปัญหาขนส่งระหว่างประเทศ International logistics 3.ความเสี่ยงการได้รับชำระเงินค่าสินค้าระหว่างประเทศของผู้ประกอบการส่งออก จากการชำระเงินล่าช้าหรือไม่ชำระเงินของคู่ค้า และ 4.ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง
สำหรับภาพรวมการส่งออกเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา มีมูลค่า 16,278 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว -22.50% การส่งออกในรูปเงินบาทเท่ากับ ล้านบาท 524,584 หดตัว -20.91% ในขณะที่การนำเข้า มีมูลค่า 13,583 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว -34.41 % และการนำเข้าในรูปของเงินบาทมีมูลค่า 443,478 ล้านบาท หดตัว -33.08% ส่งผลให้ประเทศไทยเกินดุลการค้า 2,694 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 81,105 ล้านบาท
ขณะที่ภาพรวมในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.- พ.ค.)มีการส่งออกรวมมูลค่า 97,898 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว -3.71% คิดเป็นมูลค่าการส่งออกในรูปเงินบาทที่ 3,041,719 ล้านบาท หดตัว -5.18% ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 88,808 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว -11.64% หรือคิดเป็นมูลค่า 2,793,188 ล้านบาท หดตัว -13.22% ส่งผลให้ประเทศไทยเกินดุลการค้า 9,090 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 248,531 ล้านบาท ทั้งนี้ สรท. ได้ปรับคาดการณ์การส่งออกไทยในปี 2563 หดตัว -10%
นางสาวกัณญภัคกล่าวถึงเอ็นจีโอกล่าวหาไทยใช้ลิงเก็บมะพร้าว ทำห้างในอังกฤษแบนกะทิของไทยว่า ลิงเก็บมะพร้าวเป็นวิถีชุมชนที่มีมานานแล้ว และที่สำคัญที่เราต้องชี้แจงให้คนทั่วโลกได้รับรู้ว่าประเทศไทยมีกฎหมายคุ้มครองสัตว์เพื่อควบคุมอยู่แล้ว ขณะเดียวกันในส่วนของภาคการผลิตไทย โดยเฉพาะมะพร้าวนั้นได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีต้นเตี้ยเพื่อให้สามารถเก็บผลผลิตได้ง่าย ซึ่งในปีที่ผ่านมา มีมูลค่าการส่งออกมะพร้าวไปยังต่างประเทศกว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา การส่งออกมะพร้าวไทยมีอัตราการเติบโตกว่า 115% โดยมีตลาดสำคัญ คือ สหรัฐ อังกฤษ แคนาดา เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี