เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ประชุม “เพื่อประเมินความสนใจเบื้องต้นของภาคเอกชน (Market Sounding) โครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา)ระยะที่ 2 ส่วนต่อขยายจังหวัดระยอง-จันทบุรี-ตราด”นายสุชีพ สุขสว่าง วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ร.ฟ.ท. เปิดเผย ว่า ร.ฟ.ท.ได้เสนอรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน แบบ PPP Net Cost โดยเสนอเป็น 3 แนวทางเลือก คือ
แบบที่ 1 เอกชนเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด ทั้งงานโยธา งานระบบ ขบวนรถ และ งาน Operation & Maintenance โดยภาครัฐเป็นผู้จัดหาที่ดิน แบบที่ 2 เอกชนเป็นผู้ดำเนินงานเฉพาะงานระบบและตัวรถ และงาน Operation & Maintenance โดยภาครัฐเป็นผู้จัดหาที่ดิน และงานโยธา และแบบที่ 3 เอกชนเป็นผู้ดำเนินการเฉพาะงาน Operation & Maintenance โดยภาครัฐเป็นผู้จัดหาที่ดิน งานโยธา งานระบบ และขบวนรถ
ขณะที่มี รายงานข่าวจากการรถไฟฯ ระบุว่า แผนการดำเนินงานโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ระยะที่ 2 ส่วนต่อขยายจังหวัดระยอง-จันทบุรี-ตราด ระยะทาง 190 กม.นั้น จะศึกษาแล้วเสร็จภายในสิงหาคม 2563 ก่อนเสนอคณะกรรมการนโยบายเขต พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เห็นชอบ และส่งต่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติในปี 2564 จากนั้นจะจัดเตรียมเอกสาร PPP รวมถึงรายงานผลกระทบและวิเคราะห์ด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ในปี 2565 นำไปสู่การหาผู้ลงทุนพร้อมทั้งออกแบบ และก่อสร้างในปี 2567 ก่อนที่จะทดสอบระบบและเปิดให้บริการในปี 2571 โดยเส้นทางของโครงการดังกล่าวจะผ่าน 11 อำเภอ 3 จังหวัด โดยมีจำนวน 4 สถานี ได้แก่ 1.สถานีระยอง 2.สถานีแกลง 3.สถานีจันทบุรี และ4.สถานีตราด มีศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แห่งอยู่ที่จังหวัดระยอง ในด้านการเดินรถนั้นใช้ความเร็วสูงสุดในการเดินรถ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่อัตราค่าโดยสารนั้น จะอยู่ที่ 95 บาท(แรกเข้า) +2.10 บาทต่อกิโลเมตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี