ชาวตราดกว่า 300 คน แห่ร่วมเวทีสรุปผลการศึกษา “โครงการไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน” ระยะ 2 ส่วนต่อขยายระยอง-จันทบุรี-ตราด ส่อแห้วหลังพบไม่คุ้มการลงทุน ด้านผู้ว่าฯย้ำมีศักยภาพสูง
4 สิงหาคม 2563 ที่ห้องประชุมโรงแรมเอวาด้า ต.วังกระแจะ อ.เมืองตราด ว่าที่ ร.ต.พิเชียน ลิมป์หวังอยู่ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด (ผวจ.ตราด) เป็นประธานรับฟังความคิดเห็นประชาชนต่อผลสรุปผลการศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ระยะ 2 ส่วนต่อขยายจังหวัดระยอง-จันทบุรี-ตราด โดยมีนายสุชีพ สุขสว่าง วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัทที่ปรึกษา พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และประชาชนชาวตราดร่วมประชุมรับฟังกว่า 300 คน
ว่าที่ร.ต.พิเชียน กล่าวว่า จ.ตราด มีศักยภาพมาก เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงาม มีพื้นที่ติดต่อกับชายแดนไทยกัมพูชา 3 จังหวัด หากสามารถก่อสร้างได้จะเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของ จ.ตราด มากขึ้น ซึ่งวันนี้ จ.ตราด มีเขตเศรษฐกิจพิเศษที่สามารถรอบรับความเจริญเติบโตในอนาคต โดยที่ผ่านมาทางจังหวัดรับทราบความคืบหน้ามาระยะหนึ่งแล้ว เวทีวันนี้จึงจะทำให้การพิจารณาสมบูรณ์มากขึ้น
ส่วนนายสุชีพ กล่าวว่า โครงการนี้จะเป็นโครงการรถไฟความเร็วสูงระยะที่ 2 ที่จะต่อยอดรถไฟความเร็วสูงระยะ 1 ที่เชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งขณะนี้ได้ผู้รับเหมาแล้ว จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2571 โดยเฉพาะในส่วนเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินอู่ตะเภา คาดว่าจะแล้วเสร็จก่อน จากนั้นในส่วนเชื่อมระยะที่ 2 จะดำเนินการตั้งแต่อู่ตะเภา , มีสถานี อ.บ้านฉาง , สถานี จ.ระยอง , สถานีแกลง , สถานี จ.จันทบุรี และสถานี จ.ตราด ที่จะมีสถานีอยู่ด้านหน้าการไฟฟ้าภูมิภาคตราด
“จากการศึกษาความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจแล้ว พบว่า มีค่าเพียง 5.3% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ หากจะให้เข้าเกณฑ์จะต้องเป็นตัวเลข 12% ดั้งนั้นหากจะมีการผลักดันในการก่อสร้างให้ได้ต้องมีการผลักดันจากภาคการเมืองโดยตรง โครงการนี้จะมีภาคเอกชนเข้ามาลงทุนร่วมกับรัฐบาลด้วย” นายสุชีพ กล่าว
ทางด้านที่ประชุมได้เสนอความต้องการต่างๆให้คณะจาก รฟท.และบริษัทที่ปรึกษา ทราบถึงความต้องการ และผลได้ผลเสียในการเวนคืนที่ดินที่แนวเส้นทางรถไฟความเร็วสูงผ่าน และหลายคนผิดหวังที่ไม่สามารถสร้างรถไฟความเร็วสูงมายัง จ.ตราด ด้วยข้อจำกัดทางเศรษฐกิจ ทั้งที่ จ.ตราด มีศักยภาพทางธุรกิจการท่องเที่ยว และการเป็นเมืองชายแดน จึงควรจะมีรถไฟความเร็วสูง เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ตัดสินใจและมีทางเลือกในการเดินทางมายัง จ.ตราด
สำหรับโครงการมีระยะทางทั้งหมด 190 กิโลเมตร (มีทางยกระดับ 164 กิโลเมตร , ทางระดับดิน 26 กิโลเมตร) โดยผ่าน 3 จังหวัดคือ ระยอง จันทบุรี ตราด มีทั้งหมด 3 สถานี คือ จ.ระยอง อยู่บริเวณวัดน้ำคอกเก่า ห่างจากเมืองระยองประมาณ 5 กิโลเมตร ซึ่งจะมีศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟ (Depot) อยู่ในบริเวณเดียวกัน , สถานีแกลง อยู่บริเวณแยกหมอเปลี่ยน ห่างจากเมืองแกลงประมาณ 2 กิโลเมตร , สถานี จ.จันทบุรี อยู่บริเวณใกล้กับแยกเขาไร่ยา จุดตัดกับถนนสุขุมวิท เพื่อต่อกับถนน 316 เพื่อเข้ากลางเมืองจันทบุรี ห่างจากเมืองจันทบุรีประมาณ 8 กิโลเมตร และตรา ดอยู่บริเวณใกล้กับสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดตราด บนถนนสุขุมวิท ห่างจากเมืองตราด 2 กิโลเมตร
ทั้งนี้ ระยะเวลาการเดินทาง จากอู่ตะเภา-ตราด 64 นาที , จากดอนเมือง-ตราด 110 นาที , ความเร็วสูงสุดในการให้บริการ 250 กม./ชม. จากการศึกษาโครงการเต็มแผน ในปีแรก โครงการจะมีผู้โดยสาร 7,429 คน/วัน ในอีก 30 ปีจะขึ้นไปที่ 19,575 คน/วัน มีการลงทุนรวม 101,000 ล้านบาท ค่าบริหารโครงการตลอด 30 ปี 57,383 ล้านบาท ซึ่งไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ แต่หากลงทุนในระยะที่ 2 มาถึงสถานีแกลง จะคุ้มทุนมากกว่า คือ ช่วง อู่ตะเภา-ระยอง-แกลง เป็นช่วงแรกของส่วนต่อขยาย ซึ่งจะมีความคุ้มค่าทางการเงิน สูงสุด คือ -1.12% ซึ่งจะมีปริมาณผู้โดยสารก้าวกระโดดจากระยอง เพิ่มขึ้นถึงเกือบ 4000 คน จาก 2,874 เป็น 6,447 คน/วัน เพราะทางที่ปรึกษาประเมินว่าจะมีผู้โดยสารมาจากจันทบุรีมาขึ้นที่สถานีแกลง แต่เมื่อขยายไปจันทบุรีก็จะได้ลูกค้ากลุ่มเดิม แต่ต้องลงทุนเพิ่มถึง 30,000 ล้านบาท
สำหรับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กระทรวงคมนาคม ได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีแอลที คอนซัลแตนส์ จำกัด บริษัท วิศวกรรมธรณีและฐานราก จำกัด บริษัท เอ็มเอชพีเอ็ม จำกัด และบริษัท ดาวฤกษ์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ให้ดำเนินการจ้างที่ปรึกษาความเหมาะสมด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ สังคม การเงิน และแนวทางการลงทุนที่เหมาะสม ตลอดจนงานออกแบบเบื้องต้นโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ระยะ 2 ส่วนต่อขยายจังหวัดระยอง –จันทบุรี – ตราด โดยมีระยะเวลาดำเนินงาน 240 วัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี