เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2563 สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ สรุปสถานการณ์ราคาสินค้าและบริการเดือนกรกฎาคม 2563 ภาพรวม โดยระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนกรกฎาคม 2563 เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน (YoY) ลดลงร้อยละ 0.98 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากการหดตัวร้อยละ 1.57 ในเดือนก่อนซึ่งเป็นตัวเลขติดลบ 5 เดือนติดต่อกัน
นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพรผู้อำนวยการสนค. เปิดเผยว่า แม้เงินเฟ้อเดือนกรกฎาคม ลดลง 0.98% ถือว่าปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนที่อยู่ที่ลดลง 1.57% โดยมีสาเหตุสำคัญจากราคาพลังงานที่เริ่มทรงตัว ส่งผลให้อัตราการหดตัวของราคาพลังงานในเดือนนี้ลดลง อาหารสดกลับมาขยายตัวอีกครั้งในรอบ 3 เดือน ตามความต้องการอาหารที่เพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุน ทั้งการเปิดภาคเรียนใหม่ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่กลับมาดำเนินการได้ตามปกติ
รวมทั้งการเกิดโรคระบาดสุกรในประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้ความต้องการสุกรในประเทศเพิ่มขึ้นมาตรการลดค่าครองชีพของภาครัฐ โดยเฉพาะการลดค่าไฟฟ้า ประปาได้สิ้นสุดลง และการจัดโปรโมชั่นด้านราคาสินค้าและบริการของผู้ประกอบการเริ่มลดน้อยลง โดยเฉพาะในหมวดอาหารบริโภคนอกบ้าน โดยการปรับตัวของเงินเฟ้อที่ดีขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจเริ่มค่อยๆ ฟื้นตัว
ทั้งนี้สินค้าอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ลดลง 1.87 ได้แก่ หมวดพาหนะการขนส่งและการสื่อสาร ลดลง 5.12 จากการงดเก็บค่าผ่านทางพิเศษช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2563 และการปรับลดลงของราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิด ส่งผลให้กลุ่มพลังงาน ลดลง 10.91 รวมทั้งการสื่อสาร ลดลงร้อยละ 0.04 (เครื่องรับโทรศัพท์มือถือ) หมวดเคหสถาน ลดลงร้อยละ 0.06 (ก๊าซหุงต้ม) หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า ลดลง 0.04 (เสื้อยืด/เสื้อเชิ้ตบุรุษ กางเกงขายาวเด็ก) หมวดการบันเทิงการอ่าน การศึกษาฯ
ขณะที่หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล สูงขึ้นร้อยละ 1.17 (โฟมล้างหน้า ยาสีฟัน แชมพูสระผม) และค่าโดยสารสาธารณะ สูงขึ้นร้อยละ 0.32
(ค่าโดยสารรถตู้วิ่งระหว่างจังหวัดค่าโดยสารเครื่องบิน) สำหรับหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 0.55 จากการสูงขึ้นของข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้งร้อยละ 5.17 (ข้าวสารเหนียว) ฯลฯ
“การปรับตัวดีขึ้นของเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองนั้น สอดคล้องกับการปรับตัวดีขึ้นของเครื่องชี้วัดด้านอุปสงค์ในประเทศ ทั้งการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการใช้จ่ายภายในประเทศ ปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ ทั้งนี้ ยังคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2563 ที่ -1.5% ถึง -0.7%ค่ากลางอยู่ที่ -1.1%” นางสาวพิมพ์ชนกกล่าว
ส่วนแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนสิงหาคม 2563 คาดว่าจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นมาตรการรัฐที่เน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ และราคาพลังงานที่เริ่มทรงตัวทำให้เงินเฟ้อเดือนสิงหาคม 2563 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19ความผันผวนของราคาพลังงานโลก และสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ไม่อาจไว้วางใจได้และยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี