แห่แจ้งเว็บผิดกม. ‘ดีอีเอส’ร่อนหนังสือเตือนผู้ให้บริการเร่งปิดกั้น เกียร์ว่างปรับหนัก
10 สิงหาคม 2563 นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวในงานแถลงข่าว “อาสา จับตา ออนไลน์” กับการกระตุ้นการมีส่วนร่วมสาธารณะในการดูแลสังคมออนไลน์ ว่า ช่วง 1 สัปดาห์แรกของการเปิดตัว “เพจอาสาจับตาออนไลน์” เป็นช่องทางสร้างความมีส่วนร่วมของประชาชนในการแจ้งเบาะแส ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม-9 สิงหาคม 2563 มีผู้ส่งข้อมูลแจ้งเบาะแสสื่อสังคมออนไลน์ เว็บผิดกฎหมายเข้ามาแล้ว จำนวน 1,050 รายการ (ยูอาร์แอล) หลังผ่านกระบวนการตรวจสอบ คัดกรองเรื่องที่ซ้ำออกแล้ว เหลือจำนวน 317 รายการ (ยูอาร์แอล) ประกอบด้วย กรณีที่รวบรวมหลักฐาน ดำเนินการยื่นศาลขอปิดกั้นแล้ว 181 รายการ (ยูอาร์แอล) ในจำนวนนี้ ศาลมีคำสั่งแล้วทั้งสิ้น 7 รายการ (ยูอาร์แอล) อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบข้อกฎหมายอีก 101 รายการ (ยูอาร์แอล) และอีก 35 รายการ เป็นเรื่องการการหลอกลวง การฉ้อโกง การให้คำปรึกษากับพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ ปัจจุบันกระทรวงดิจิทัลฯ ได้เร่งรัดระบบรับเรื่องร้องเรียนสื่อออนไลน์ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น กระบวนการรวบรวมและตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ต้องเสร็จสิ้นภายใน 48 ชั่วโมง แล้วส่งให้ศาลอนุมัติคำสั่ง เมื่อศาลมีคำสั่งออกมาแล้ว เราก็จะดำเนินการส่งให้ ทางตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) และตำรวจที่เกี่ยวข้องไปตามจับผู้กระทำผิดได้โดยเร็ว ตลอดจนส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น แพลตฟอร์มในต่างประเทศปิดเว็บหรือลบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม
นายพุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ เราบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง การตรวจสอบการดำเนินการตามคำสั่งศาล ตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายน 2563 หรือ 3 เดือนที่ผ่านมา ตรวจพบเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาผิดกฎหมายจำนวน 1,500 ยูอาร์แอล แบ่งเป็น Facebook จำนวน 1,365 ยูอาร์แอล ระงับการเข้าถึงแล้ว (ปิดแล้ว) 236 ยูอาร์แอล และ YouTube จำนวน 135 ยูอาร์แอล ระงับการเข้าถึงไปแล้ว (ปิดแล้ว) 135 ยูอาร์แอล
โดยเว็บไซต์ Facebook ที่ยังเข้าถึงได้ (ยังเปิดอยู่) จำนวน 1,129 URLs นั้น ซึ่งวันนี้ จะเป็นวันแรกที่เราจะมีหนังสือแจ้งเตือน (Letter of Notice) ไปยังผู้ให้บริการให้เร่งดำเนินการปิดกั้นเนื้อหาดังกล่าวโดยเร็ว ทั้งนี้หากไม่ดำเนินการภายใน 15 วันอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม มาตรา 27 พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โทษปรับ 200,000 บาท หรือวันละ 5,000 บาท ซึ่งจะดำเนินการควบคู่กันไป ทั้งคดีทางอาญา และเปรียบเทียบปรับ มาตรการนี้เป็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และกดดันผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่างประเทศดำเนินการภายใต้กฎหมายของประเทศไทย
นอกจากนี้ กระทรวงดิจิทัลฯ ต้องขอขอบคุณประชาชนผู้แจ้งเบาะแสทุกท่าน ที่ร่วมกันเป็นหูเป็นตา และทนไม่ได้กับการกระทำความผิดทางออนไลน์ ช่วยกันสอดส่องดูแลเว็บไซต์ไม่เหมาะสม ที่มีการกระทำผิดกฎหมายทางออนไลน์ หรือผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ โดยได้แจ้งข้อมูลทาง เพจเฟซบุ้ก “อาสา จับตา ออนไลน์” ซึ่งเป็นช่องทางรับแจ้งข้อมูลจากประชาชน มีเจ้าหน้าที่รับเรื่องและตรวจสอบตลอด 24 ชม. หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากระทรวงจะได้รับความร่วมมืออย่างดีเช่นนี้จาก อาสา จับตา ออนไลน์ ทุกท่าน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี