นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานเปิดเผยสถานการณ์พลังงาน ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 ว่า การใช้พลังงานขั้นต้นลดลงร้อยละ 10.1จากการใช้น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติที่ลดลง เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ห่วงโซ่การดำเนินธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการใช้พลังงาน และการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศหยุดชะงัก ในขณะที่ไฟฟ้านำเข้ามีการใช้เพิ่มขึ้นและพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสรุปได้ดังนี้
1.การใช้น้ำมันสำเร็จรูป ลดลงร้อยละ 12.6โดยการใช้น้ำมันดีเซลลดลงร้อยละ 4.3 เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันในช่วงเวลาดังกล่าวลดลง อีกทั้งการลดลงของผลผลิตสินค้าเกษตรเนื่องจากปัญหาภัยแล้ง จึงทำให้การขนส่งสินค้าลดลง การใช้น้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลดลงร้อยละ 7.1ซึ่งมีปัจจัยหลักมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
2.การใช้ LPG ลดลงเกือบทุกสาขาโดยเฉพาะการใช้ในภาคขนส่ง ลดลงร้อยละ 30.2 จากการปรับลดลงของราคาขายปลีกน้ำมันส่งผลให้ผู้ใช้รถยนต์ LPG บางส่วนหันมาใช้น้ำมันทดแทน ประกอบกับปริมาณรถยนต์ LPG ที่มีแนวโน้มลดลง การใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งมีสัดส่วนการใช้สูงสุดคิดเป็นร้อยละ 39 มีการใช้ลดลงร้อยละ 18.8 ส่วนภาคอุตสาหกรรม มีการใช้ลดลงร้อยละ 9.9ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจและภาคครัวเรือนมีการใช้ลดลงร้อยละ 5.9
3.การใช้ก๊าซธรรมชาติลดลงร้อยละ 8.5โดยลดลงทุกสาขาเศรษฐกิจ ทั้งการใช้เป็นเชื้อเพลิงในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี การใช้เพื่อผลิตไฟฟ้าการใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวด้านการใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ (NGV) ลดลงร้อยละ 28.8 จากผู้ใช้รถยนต์ NGV บางส่วนเปลี่ยนมาใช้น้ำมันเนื่องจากราคาอยู่ในระดับไม่สูงมากนัก อีกทั้งผลจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้การใช้ NGV ในการเดินทางลดลง
4.การใช้ถ่านหิน/ลิกไนต์ ลดลงร้อยละ 0.3 ตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว 5.การใช้ไฟฟ้าลดลงร้อยละ 3.9 โดยลดลงในเกือบทุกสาขา
ผู้อำนวยการ สนพ. ยังกล่าวถึงแนวโน้มการใช้พลังงานปี 2563 ซึ่ง สนพ. ได้มีการพยากรณ์โดยอ้างอิงสมมุติฐานด้านเศรษฐกิจ และนโยบายที่เกี่ยวข้องมาเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการใช้พลังงาน โดยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. คาดว่าในปี 2563 อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะมีการปรับตัวลดลงในช่วงร้อยละ -5.0 ถึง-6.0 จากปัจจัยดังนี้
1.การปรับตัวลดลงรุนแรงของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลก 2.การลดลงรุนแรงของจำนวนและรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ3.เงื่อนไขข้อจำกัดที่เกิดจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมทั้ง 4.ปัญหาภัยแล้ง ซึ่งจากสมมุติฐานดังกล่าว จะส่งผลให้การใช้พลังงานขั้นต้นในปี 2563 ลดลงร้อยละ 5.3 ตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
2.ขณะที่การใช้พลังงานไฟฟ้าในปี 2563 คาดว่าจะลดลงร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับปีก่อน
โดยในกรณีที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ปรับตัวลดลงรุนแรงถึงร้อยละ-9.0 ถึง-10.0 คาดว่าจะส่งผลให้การใช้พลังงานของประเทศลดลงร้อยละ7.9โดยการใช้น้ำมันเบนซินลดลงร้อยละ 6.3 การใช้น้ำมันดีเซล ลดลงร้อยละ 4.0 การใช้น้ำมันเครื่องบิน ลดลงร้อยละ 43.5 การใช้ LPG ลดลงร้อยละ 10.9การใช้น้ำมันเตาลดลงร้อยละ 10.0 และการใช้ไฟฟ้าลดลงร้อยละ 3.0
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี