DITP สบโอกาสมัลดีฟส์เปิดประเทศพร้อมหั่นภาษีนำเข้าร้อยละ 50 เร่งเตรียมโครงการพาผู้ประกอบการไทยจับคู่ธุรกิจต้นปีหน้า
DITP เผยเตรียมจัดโครงการจับคู่เจรจาธุรกิจขยายตลาดมัลดีฟส์ปีงบประมาณ 2564 ภายหลังมัลดีฟส์เปิดประเทศฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย ชี้การลดภาษีนำเข้าสินค้าวัสดุก่อสร้าง เซรามิค เครื่องครัว เปิดโอกาสผู้ประกอบการไทยขยายส่งออกสินค้าไปกลุ่มโรงแรมและรีสอร์ทเพิ่มขึ้น
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมได้รับแจ้งล่าสุดจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเจนไน สาธารณรัฐอินเดีย ซึ่งมีเขตอาณาครอบคลุมถึงศรีลังกาและสาธารณรัฐมัลดีฟส์ด้วยว่า เมื่อเร็วๆ นี้รัฐสภามัลดีฟส์ได้เห็นชอบแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการนำเข้าและการส่งออก (Import-Export Act) โดยเตรียมลดภาษีนำเข้าหลายรายการ สูงสุดถึงร้อยละ 50 สำหรับสินค้าที่นำเข้าผ่านท่าเรือภูมิภาค (Regional Ports) ณ หมู่เกาะคุฮาดูฟฟูชิ (Kulhudhuffushi) เกาะหลักทางตอนเหนือใกล้กับอินเดียและตะวันออกกลาง และเมืองอัดดู (Addu City) เมืองสำคัญทางภาคใต้ของประเทศ รวมถึงสินค้า ที่นำเข้าผ่านสนามบินนานาชาติในท้องถิ่นด้วย โดยสินค้าที่เข้าข่ายได้รับการลดภาษีนำเข้า ได้แก่ วัสดุก่อสร้างประเภทเหล็กแผ่นรีดลอน (metal sheets) เหล็กแผ่น (plates) เหล็กเส้น (metal bars) ผลิตภัณฑ์เซรามิค และเครื่องครัว เป็นต้น และจะมีการประกาศอีกครั้งในรายละเอียดต่อไป ทั้งนี้ ไม่รวมถึงสินค้าควบคุมการนำเข้าประเภทเนื้อหมู เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผลิตภัณฑ์ยาสูบ/บุหรี่
“ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคมเป็นต้นมา มัลดีฟส์นับเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียใต้ที่เปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้งภายหลังปิดประเทศตามมาตรการล็อคดาวน์ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศที่พึ่งพาธุรกิจท่องเที่ยวเป็นสำคัญ คิดเป็นประมาณร้อยละ 30 ของจีดีพี โดยกรมมองว่าการกลับมาเปิดประเทศของมัลดีฟส์หลังสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศเริ่มคลี่คลายจะทำให้รีสอร์ท ตามเกาะต่างๆ เริ่มทยอยกลับมาให้บริการนักท่องเที่ยวตามปกติอีกครั้ง ส่งผลให้มีความต้องการนำเข้าสินค้า หลายประเภทเพิ่มขึ้น จึงเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะขยายตลาดสินค้าและบริการไทยเข้าสู่มัลดีฟส์ที่กำลังต้องการสินค้าและบริการเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ การแก้ไขร่างกฎหมายโดยปรับลดภาษีนำเข้าซึ่งได้รับการผลักดันจากกลุ่มการเมืองในเขตท้องถิ่นเพื่อกระจายกิจกรรมทางเศรษฐกิจไปยังต่างพื้นที่นอกเหนือจากกรุงมาเล่ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศนั้น นับเป็นโอกาสดีสำหรับรีสอร์ตที่กระจายตัวในเขตหมู่เกาะทางตอนเหนือและตอนใต้ของประเทศที่จะสามารถนำเข้าสินค้าได้สะดวกยิ่งขึ้น อีกทั้งหมู่เกาะดังกล่าวมีรีสอร์ทที่มีชื่อเสียง รวมถึงรีสอร์ทของไทยตั้งอยู่ด้วย จึงนับว่าการปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าดังกล่าวจะยิ่งเพิ่มโอกาสให้กับสินค้าศักยภาพของไทย โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง เครื่องครัวและสินค้าไลฟ์สไตล์ต่างๆ ที่มีการออกแบบเหมาะสมกับการใช้งานของกลุ่มโรงแรมและรีสอร์ทให้สามารถส่งออกไปประเทศมัลดีฟส์ได้เพิ่มขึ้นต่อไป” อธิบดีสมเด็จให้ข้อมูลเพิ่มเติม
“ประเทศมัลดีฟส์เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของโลกและนับเป็นหนึ่งในตลาดศักยภาพของไทย ในภูมิภาคเอเชียใต้ที่กรมให้ความสำคัญมาโดยตลอด โดยที่ผ่านมากรมได้ดำเนินโครงการและกิจกรรมต่างๆ เพื่อเร่งขยายโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการของไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดโครงการคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์และคณะผู้แทนการค้าเยือนมัลดีฟส์ โครงการคณะผู้แทนการค้าสินค้าอาหารและอุตสาหกรรมเยือนมัลดีฟส์ การเชิญผู้นำเข้ามัลดีฟส์เข้าร่วมการเจรจาการค้าสินค้าก่อสร้างในประเทศไทยหรืองานแสดงสินค้านานาชาติอื่นๆ ที่กรมจัดขึ้น เป็นต้น และสำหรับปีงบประมาณ 2564 ที่จะถึงนี้ กรมได้เตรียมโครงการจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยและผู้นำเข้ามัลดีฟส์ในกลุ่มธุรกิจของใช้ในโรงแรม อาหาร และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ ในช่วงต้นปี 2564 เพื่อส่งเสริมและผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยดำเนินธุรกิจในตลาดมัลดีฟส์ได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไป” อธิบดีสมเด็จกล่าวทิ้งท้าย
ในปี 2562 ที่ผ่านมา ไทยและมัลดีฟส์มีมูลค่าการค้ารวม 186.53 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.85 จากปีก่อนหน้า โดยไทยส่งออกไปมัลดีฟส์ มูลค่า 119.50 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 0.94 จากปีก่อนหน้า นำเข้าจากมัลดีฟส์ 67.03 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.25 โดยสินค้าสำคัญ 5 อันดับแรกที่ไทยส่งออกไป มัลดีฟส์มากที่สุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่องนุ่งห่ม เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ตามลำดับ ขณะที่สินค้าหลักที่ไทยนำเข้าจากมัลดีฟส์แทบทั้งหมด คือ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี