นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยหลังผู้ประกอบการสายการบิน 7 แห่ง ประกอบด้วย สายการบินไทยสมายล์, ไทยแอร์เอเชีย, ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์, นกแอร์, บางกอกแอร์เวย์ส, ไทยเวียตเจ็ท,
และไทยไลอ้อนแอร์ ได้ขอเข้าพบ ว่า สืบเนื่องจากสายการบินได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยได้มาสอบถามความก้าวหน้ามาตรการเยียวยาต่างๆ
โดยได้ชี้แจงไปว่า ในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จะนำข้อเสนอต่างๆ ของผู้ประกอบการสายการบินเสนอต่อที่ประชุมเพื่อพิจารณาต่อไป
สำหรับการขอช่วยเหลือ เช่น การขอกู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ขณะนี้ทางกระทรวงการคลังได้มีการมอบให้ธนาคารออมสินเป็นผู้ดำเนินการแล้ว แต่ติดปัญหาการประเมินเรื่องหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้เงิน เพราะส่วนใหญ่ทางสายการบินจะใช้รูปแบบเป็นการเช่าเครื่องบินไม่สามารถนำมาใช้ค้ำประกันได้ ทั้งนี้จะมีการหารือกับกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการใช้วิธีเปลี่ยนสินทรัพย์เป็นทุนด้วยการนำใบอนุญาตประกอบการกิจการค้าขายในการเดินอากาศใหม่ (AOL) ซึ่งเป็นใบอนุญาตฯ ที่ได้รับจากสำนักงาน
การบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เนื่องจากใบอนุญาตดังกล่าวสามารถนำมาหารายได้ และนำไปเช่าซื้อเครื่องบินได้
ทั้งนี้ จากการพิจารณาเบื้องต้นโครงสร้างของแต่ละสายการบินยังแข็งแรงอยู่ และเริ่มสามารถกลับมาทำการบินเส้นทางภายในประเทศ และมีผู้โดยสารมาใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องบางสายการบินมีผู้โดยสารภายในประเทศกลับมาแล้วประมาณ 80-90%
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการสายการบินยังขอขยายเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบิน จาก 4.726 บาท/ลิตร เหลือ0.20 บาท/ลิตร ซึ่งจะสิ้นสุดสิ้นเดือนกันยายนนี้รวมถึงขอขยายเวลาการลดค่าบริการในการขึ้น-ลงของอากาศยาน (Landing) และค่าบริการที่เก็บอากาศยาน (Parking) ในอัตรา 50% ที่จะสิ้นสุดช่วงปลายปีนี้ออกไปอีก
รมว.คมนาคมกล่าวอีกว่า ทางสายการบิน ยังได้มีการเสนอให้มีการปลดล็อกผู้ประกอบการสายการบินให้สามารถจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่มบนเครื่องบินได้ตามปกติ โดยมอบให้ผู้ประกอบการไปจัดทำรายละเอียดมาเกี่ยวกับวิธีการจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่มบนเครื่องบินอย่างไร รวมถึงจะมีอะไรเป็นหลักประกันว่าเมื่อเปิดให้จำหน่ายอาหารฯ แล้วไม่เกิดปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสฯ อย่างไรก็ตามจะมีการนำข้อเสนอที่ผู้ประกอบการสายการบินเสนอให้นำ PCR TEST ซึ่งเป็นระบบตรวจหาไวรัส COVID-19ที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขหลายประเทศให้การยอมรับ และมีความแม่นยำสูง มาใช้ที่สนามบินในประเทศไทยด้วย โดยหากในอนาคตมองว่าเป็นประโยชน์จริงก็อาจนำมาทดสอบต่อไป
ด้านนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กล่าวว่า การเปิดให้สายการบินขายอาหาร หากไม่มีปัญหาอะไร คาดว่าจะยกเลิกประกาศ กพท.ฉบับเก่า และออกประกาศ กพท. ฉบับใหม่ โดยให้สายการบินเปิดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มได้เฉพาะสายการบินที่ทำการบินภายในประเทศเท่านั้นเบื้องต้นคาดว่าจะให้เริ่มได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน2563 เป็นต้นไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี