เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2563 ทำเนียบรัฐบาล นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน นำนักเศรษฐศาสตร์ จากองค์กรวิจัยอิสระ มหาวิทยาลัย และสถาบันการเงิน เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เพื่อนำเสนอและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการขับเคลื่อนประเทศในช่วงวิกฤติ
โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้โพสต์ Facebook ส่วนตัวว่า ก่อนการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)หรือ ศบศ.มีโอกาสพบปะพูดคุยกับนักเศรษฐศาสตร์ จากองค์กรวิจัยอิสระ มหาวิทยาลัย และสถาบันการเงินที่ได้นำเสนอและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการขับเคลื่อนประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤติในช่วงนี้ มีหลายเรื่องที่ได้คุยกัน เช่นนโยบายการเงินการคลัง ระบบภาษี การกระตุ้นการจ้างงาน และการปรับทักษะแรงงานรวมถึงสถานการณ์และมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลต้องเตรียมการเพื่อรับมือในอนาคต
“หลายเรื่องรัฐบาลได้เริ่มทำไปแล้วหรืออยู่ระหว่างการดำเนินการเพราะตรงกับยุทธศาสตร์ชาติที่มีอีกหลายเรื่อง จะเป็นประโยชน์ที่ช่วยให้ผมสามารถตัดสินใจและกำหนดแนวทางการดำเนินการของรัฐบาลต่อไป ผมรู้สึกดีใจที่ได้เห็นความเต็มใจของทุกท่านที่พร้อมจะเข้ามาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ ผมยืนยันครับว่ารัฐบาลพร้อมที่จะรับฟังทุกภาคส่วน”นายกรัฐมนตรีย้ำ
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีได้เชิญผู้ประกอบการในภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย-ภาคธุรกิจค้าปลีกไทย เข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อนำเสนอวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนภาคธุรกิจ ที่ต้องการให้รัฐบาลสนับสนุน รวมไปถึงกฎกติกาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในการประกอบธุรกิจเพื่อขอให้รัฐบาลช่วยปลดล็อก
นายภูมินทร์ หะรินสุต รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือเอสเอ็มอี ต่างก็ได้รับผลจากวิกฤติครั้งนี้ ทำให้เกิดการชะลอตัวในภาคการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายของภาคเอกชน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/2563 ติดลบ 12.2% โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานปัจจุบันมีความน่ากังวลอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการล็อกดาวน์ไตรมาส 1 ที่มีอัตราการว่างงานเพียง 1% หรือประมาณ 400,000 คน สูงขึ้นเป็น 800,000 คน หรือ 1.95% ทั้งนี้ จากผลสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่าหากเศรษฐกิจไม่ดีขึ้นภายใน 6 เดือนจนถึงสิ้นปีนี้ ธุรกิจเอสเอ็มอีอาจมีการปลดคนงานสูงถึง 2 ล้านคน
ทั้งนี้ หอการค้าไทยร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และซีพี ออลล์ ส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็มอีผ่านระบบออนไลน์ โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจะร่วมดำเนินโครงการ TCC Online Training และบริษัท ซีพี ออลล์ จะร่วมดำเนินโครงการ Business Accelerator เพื่อเสริมสร้างโอกาสให้กับเอสเอ็มอี ภาคแรงงานที่อยู่ระหว่างการหางานทำใหม่ รวมถึงเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมายังจะมีโอกาสตรวจสอบตนเอง ทั้งด้านความพร้อมของผลิตภัณฑ์ที่จะต้องปรับตัว เพื่อขยายสู่ช่องทางตลาดใหม่ๆ ทั้งด้านตลาดออนไลน์ หรือ Modern Trade ต่างๆ รวมถึงการเสริมองค์ความรู้ทางด้านการบริหารจัดการธุรกิจในสภาวะวิกฤติ เพื่อให้ตนเองพร้อมสำหรับการกลับเข้าสู่ตลาดแรงงาน หรือการผันตัวไปเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้อย่างเข้มแข็งในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี