เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2563 มีการร่วมประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+3 (ASEAN+3 Finance Ministers and Central Bank Governors’ Meeting: AFMGM+3) ครั้งที่ 23 ในรูปแบบการประชุมทางไกล
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นางสาวเกตสุดา สุประดิษฐ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้รับมอบหมายเป็นผู้แทนรมว.คลังของไทย ทั้งนี้รมว.คลังและผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เป็นประธานร่วม โดยได้หารือประเด็นด้านเศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่อเสถียรภาพของภูมิภาคอาเซียน+3 ดังนี้
1.สถานการณ์เศรษฐกิจโลกและภูมิภาค ที่ประชุมเห็นพ้องว่าโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และเศรษฐกิจของทุกประเทศอย่างมาก โดยแต่ละประเทศได้ใช้นโยบายด้านการเงินและการคลังเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและเพิ่มสภาพคล่องแก่ประชาชนและเอกชนโดยเฉพาะ SMEs รวมถึงการปรับตัวเพื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่กระทบห่วงโซ่อุปทานของโลก
โดยที่ประชุมคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะเติบโตขึ้นในปีหน้า ซึ่งสอดคล้องกับรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจจากผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศ ได้แก่ สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 (ASEAN+3 Macroeconomic Research Office: AMRO) ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) รวมทั้งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(International Monetary Fund: IMF) ที่เห็นพ้องว่า เศรษฐกิจโลกและภูมิภาคมีสัญญาณฟื้นตัวในปี 2564 โดย AMRO คาดการณ์การเติบโตของภูมิภาคอยู่ที่ร้อยละ 6.7 และคาดว่าไทยจะโตที่ร้อยละ 4.6
ทั้งนี้ ทั้ง 3 องค์กร มีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในทิศทางเดียวกัน คือ ประเทศสมาชิกอาเซียน+3 ควรเร่งปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจภายหลังจากCOVID-19 และดำเนินนโยบายเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดย IMF เห็นว่าควรให้ความสำคัญเรื่องการบรรเทาผลกระทบจาก COVID-19 การดำเนินนโยบายและมาตรการเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจรวมทั้งการลดความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบอย่างค่อยเป็นค่อยไป
โดยในระยะกลางและระยะยาวควรเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การจัดสรรทรัพยากร และพัฒนาทักษะแรงงาน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ รวมถึงต้องมีการบริหารจัดการหนี้ของภาครัฐและเอกชนที่เหมาะสม
ในส่วนของ ADB เห็นว่าควรใช้มาตรการทางภาษีเพื่อกระจายรายได้ สนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการนำเทคโนโลยีทางดิจิทัลมาเป็นเครื่องมือปรับปรุงระบบสาธารณสุข
2.ที่ประชุม AFMGM+3 ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบร่างความตกลง CMIM ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (Excerpt Version) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้ความช่วยเหลือทางการเงินภายใต้ CMIMและรับทราบความคืบหน้าการดำเนินการตามภารกิจหลักของ AMRO มาตรการริเริ่มพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย (Asian Bond Markets Initiative: ABMI) รวมทั้งความคืบหน้าของการดำเนินการภายใต้กรอบความร่วมมือทางการเงิน (ASEAN+3 FinanceProcess) เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในการริเริ่มมาตรการใหม่ๆ เพื่อขยายความร่วมมือในภูมิภาคเพิ่มขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี