ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานในบทวิเคราะห์“เบี้ยประกันชีวิตปี 2563 หดตัวลงลึกต่อเนื่องจากปีก่อน ธุรกิจประกันเร่งปรับตัว ลดทุนประกันแผนหลัก เพิ่มทุนประกันสุขภาพ” โดยระบุ ว่า ประกันชีวิตเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2563 นี้ ภาพรวมเบี้ยประกันชีวิตหดตัวลง -3.6% YoY(เทียบปีต่อปี) และคาดว่าแนวโน้มทั้งปีนี้จะหดตัวลงติดต่อกันเป็นปีที่สองในกรอบ -2% ถึง -6% เนื่องจากเบี้ยรับรายใหม่มีความเสี่ยงที่จะหดตัวต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ -10% ถึง -15% แม้ว่าเบี้ยปีต่ออายุน่าจะมีสัญญาณฟื้นตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ก็ตาม

ปัจจัยลบจากเศรษฐกิจที่ลดทอนอำนาจซื้อ และความน่าสนใจในการซื้อประกันเพื่อออมที่ลดลงตามอัตราผลตอบแทนของผลิตภัณฑ์ประกันหลักลงมาเหลือเพียงเฉลี่ย 1% เศษในปีนี้ จะยังเป็นโจทย์หลักที่จำกัดโอกาสการฟื้นตัวของธุรกิจประกันในระยะต่อไป ทำให้คาดว่าบริษัทต้องปรับปรุงขนาดทุนประกันของแผนประกันชีวิตสัญญาหลักให้เล็กลงให้สอดคล้องกับกำลังซื้อและขยายโอกาสการเข้าถึงลูกค้าให้มากขึ้น

นอกจากนี้ ในช่วงที่เหลือของปี คาดว่าเบี้ยประกันสุขภาพน่าจะปรับตัวดีขึ้นและผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/2563 เนื่องจากปัจจัยบวกของการเพิ่มค่าลดหย่อนภาษีสำหรับการซื้อประกันสุขภาพเป็น 25,000 บาทต่อปี และการเข้าสู่สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ (Aged Society) ของประเทศไทยในปีหน้า ตลอดจนความตื่นตัวในการซื้อประกันสุขภาพหลังสถานการณ์โควิด-19

ขณะที่บริษัทประกันชีวิตมุ่งปรับปรุงช่องทางขายและบริการผ่านดิจิทัลมากขึ้น เพื่อรองรับกระบวนการทำงานใหม่และวิถีชีวิตใหม่หลังโควิด ท่ามกลางความท้าทายในการขยายธุรกิจประกันชีวิตภายใต้ภาวะอัตราดอกเบี้ยที่คงทรงตัวต่ำต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 1-2 ปีข้างหน้า

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังสำรวจพฤติกรรมการซื้อขนมไหว้พระจันทร์ในปี 2563 ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 1 ตุลาคม ว่า เช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆ การระบาดของโควิด-19 กระทบต่อกำลังซื้อของคนในประเทศที่ชะลอตัวลงรุนแรง ประเมินว่า มูลค่าตลาดขนมไหว้พระจันทร์ในปี 2563 จะอยู่ที่ราว 800 ล้านบาท หดตัว 15.8% โดยน้ำหนักของการหดตัวมากสุด อยู่ที่จำนวนผู้ซื้อและจำนวนชิ้นที่ซื้อที่ลดลง