นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการกำหนดให้สินค้าต้องเป็นไปตามมาตรฐานว่า สมอ. ได้ประกาศให้ปลั๊กไฟเพาเวอร์แบงก์ สายไฟ และเบรกเกอร์ เป็นสินค้าควบคุม เพราะหากไม่ได้มาตรฐานอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ นอกจากนี้ยังส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตภายในประเทศ ให้สามารถยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามมาตรฐาน เนื่องจากสินค้าดังกล่าวมีปริมาณการผลิตเป็นจำนวนมาก และมีการใช้งานในเกือบทุกครัวเรือน สถานที่ทำงาน และอาคารสถานที่ต่างๆ ดังนั้น การประกาศเป็นสินค้าควบคุม จะช่วยคุ้มครองประชาชนให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้าดังกล่าว โดยจะมีผลบังคับใช้ในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ สมอ. จึงได้จัดการสัมมนาขึ้น โดยเชิญผู้ประกอบการทั้งผู้ทำ และนำเข้าสินค้าดังกล่าวเข้าร่วมการสัมมนากว่า 600 ราย จากทั่วประเทศเพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องและสร้างความเข้าใจร่วมกันในเรื่องข้อกำหนดของสินค้า เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปรับปรุงแก้ไขสินค้าให้เป็นไปตามข้อกำหนดในมาตรฐานได้อย่างถูกต้อง และสามารถยื่นขอการรับรองตามมาตรฐานดังกล่าวได้ ผ่านทางระบบe-License บนเครือข่ายอินเตอร์เนตได้ที่ www.itisi.go.th ตลอด 24 ชั่วโมง
โดยผลทดสอบผลิตภัณฑ์และผลตรวจโรงงานจะถูกส่งตรงจากห้อง LAB และหน่วยงาน Outsource ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เนตซึ่งผู้ประกอบการไม่ต้องมีภาระเรื่องเอกสารดังกล่าวอีกต่อไป สำหรับการชําระค่าบริการและค่าธรรมเนียมงานบริการด้านอื่นๆ ท่านผู้ประกอบการก็สามารถดำเนินการผ่านระบบ e-Payment ได้ โดยไม่ต้องเดินทางมาชำระที่ สมอ. สามารถชําระค่าบริการและค่าธรรมเนียมผ่านทางธนาคารได้สะดวก และรวดเร็วมากขึ้น
หลังจากนี้สมอ.จะดำเนินการตรวจควบคุมการทำ นำเข้า และจำหน่ายสินค้าทั้ง 4 รายการในท้องตลาดอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง รวมทั้งที่จำหน่ายผ่านทางออนไลน์ด้วย โดยตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา สมอ. ได้ยึดอายัดสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ได้มาตรฐานมูลค่ารวมกว่า 568 ล้านบาท สำหรับในปี 2563 ได้ยึดอายัดกว่า 143 ล้านบาทและเพื่อให้การคุ้มครองผู้บริโภคเป็นไปอย่างครอบคลุม และทั่วถึง สอดคล้องตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป สมอ. ได้เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้านการตรวจควบคุมและกำกับติดตามร้านจำหน่ายให้กับเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการตรวจของเจ้าหน้าที่ ให้มีความสะดวก รวดเร็ว ทันต่อยุคสมัย
และในวันที่ 21 มกราคม 2564 ที่จะถึงนี้สมอ. ยังได้กำหนดให้ผู้รับอนุญาตทุกรายจะต้องแสดงรายละเอียดข้อมูลในใบอนุญาต และข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่ได้รับใบอนุญาตในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ คู่กับเครื่องหมายมาตรฐาน ที่สินค้าด้วย โดย สมอ. ได้จัดทำเป็น QR Code เพื่อให้ผู้รับอนุญาตนำไปแสดงบนสินค้าที่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถตรวจสอบรายละเอียดของสินค้าได้ง่ายๆ เพียงสแกน QR Code ก่อนตัดสินใจซื้อ
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ จะเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมาธิการด้านการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-สหพันธรัฐรัสเซีย ครั้งที่ 4 ร่วมกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจของสหพันธรัฐรัสเซีย (นายวลาดิมีร์ อิลลิโชฟ) ในวันที่ 22 ตุลาคม 2563 ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) เพื่อหารือแนวทางขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ระหว่างไทยและรัสเซีย
นอกจากนี้ จะพิจารณาปรับปรุงบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขยายความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างกระทรวงพาณิชย์ของราชอาณาจักรไทยและกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจของสหพันธรัฐรัสเซีย ที่เคยลงนามกันตั้งแต่ปี 2559 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าสองฝ่ายบรรลุเป้าหมายเป็น 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามที่ผู้นำทั้งสองประเทศเคยตั้งเป้าหมายไว้
ทั้งนี้ ในปี 2562 รัสเซียเป็นคู่ค้าอันดับที่ 30 ของไทย การค้าระหว่างไทยและรัสเซีย มีมูลค่า 3,130.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ไทยส่งออกไปรัสเซียมูลค่า 958.1 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ยางพาราและไทย นำเข้าจากรัสเซียมูลค่า 2,172.1 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ น้ำมันดิบ เหล็ก ยุทโธปกรณ์ และปุ๋ย
สำหรับในปี 2563 (มกราคม-สิงหาคม) รัสเซีย เป็นคู่ค้าอันดับที่ 28 ของไทย การค้าระหว่างไทยและรัสเซีย มีมูลค่า 1,592.2ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปรัสเซียมูลค่า 472.54 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกหลักได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง และไทยนำเข้าจากรัสเซียมูลค่า 1,119.7 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ น้ำมันดิบ ปุ๋ย และเหล็ก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี