nn กำลังเป็นประเด็นร้อน...เรื่องประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางขุนนนท์-มีนบุรี ) วงเงิน 1.42 แสนล้าน... เพราะแม้ว่าศาลปกครองมีคำสั่งเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2563 ให้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ทุเลาการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการนี้ไว้ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา พร้อมสั่งให้ รฟม. และคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือก(คณะกรรมการตามมาตรา 36)กลับไปใช้เกณฑ์เดิมตามเงื่อนไขประมูล (RFP) ที่ได้ออกไปแล้วตั้งแต่ต้น…เรื่องเหมือนจะจบแบบแฮปปี้ เอนดิ้ง เพราะเมื่อมีคำสั่งศาลออกมาเช่นนี้ รฟม.และคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกฯก็น่าจะเดินหน้าจัดประมูลต่อไปได้....แต่กลับผิดคาดฝ่ายบริหาร รฟม. และคณะกรรมการตามมาตรา 36 ยังคงมีลูกฮึดจะอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองต่อไป พร้อมกลับสั่งเดินหน้าประมูลโครงการดังกล่าวต่อไป โดยให้บริษัทเอกชนเข้ายื่นซองข้อเสนอตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 …
แบบนี้ข้อกังขาเกิดขึ้นทันที...เพราะ รฟม.จะให้ยื่นซองประมูลทั้งที่ยังไม่รู้ว่า รฟม.จะใช้เกณฑ์ใดตัดสินชี้ขาดอย่างนั้นหรือ ??? หรือว่าจะให้ยื่นประมูลกันไปตามหลักเกณฑ์เดิม ตามคำสั่งศาลก่อน แต่หากรฟม.อุทธรณ์ใช้หลักเกณฑ์ใหม่ได้ผลก็ค่อยปรับเปลี่ยนเอาเกณฑ์ใหม่มาใช้...และหากว่าประมูลตามเกณฑ์เดิมแล้ว ได้ผู้ร่วมลงทุนรายหนึ่งไปแล้ว แต่พอหงายไพ่เอาหลักเกณฑ์ใหม่ไปจับกลับ “พลิกล็อก”ได้ผู้รับเหมาร่วมลงทุนอีกรายขึ้นมา มันจะไม่ยุ่งเป็นยุงยกพวกตีกันหรอกหรือ???
น่าแปลก! ขณะที่ รฟม.ยื่นคำชี้แจงต่อศาล ยืนยันความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือก เพราะเป็นโครงการใหญ่ที่มีความซับซ้อน บางส่วนของเนื้องานเป็นงานก่อสร้างใต้ดิน และมีการก่อสร้างอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา จึงจำเป็นต้องได้ผู้รับเหมาที่มีศักยภาพ จึงไม่อาจจะพิจารณาเพียงข้อเสนอด้านเทคนิคอย่างเดียวได้...แต่พฤติการณ์ของหน่วยงานกลับ “ย้อนแย้ง” เพราะหาก รฟม.คำนึงถึงศักยภาพของผู้รับเหมาที่จำเป็นต้องได้ผู้รับเหมาที่มีศักยภาพ ก็ยิ่งต้องเพิ่มดีกรีการประเมินคุณสมบัติด้านเทคนิคให้สูงขึ้นไป เช่นว่าต้องผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ 85-90% โน่นเลย... แต่นี่ รฟม.และคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกกลับรื้อเพดานข้อเสนอด้านเทคนิคขั้นต่ำทิ้ง แล้วไปเอาข้อเสนอทางการเงินเข้ามาพิจารณาควบคู่ อันเป็นการ “ลดทอน”คุณสมบัติด้านเทคนิคลง ซึ่งย่อมไม่มีหลักประกันใดๆ ว่าจะได้ผู้รับเหมาที่มีศักยภาพตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้
หาก รฟม.จะดันทุรังจะงัดเอาเกณฑ์ประเมินชี้ขาดใหม่...รับรองว่า“งานงอก”แน่ๆ เพราะหากแม้ว่าในที่สุดศาลปกครองกลาง หรือศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษาให้ยกคำร้องขอทุเลาการบังคับใช้เกณฑ์พิจารณาคัดเลือกใหม่ และให้คณะกรรมการเดินหน้าจัดประมูลโดยใช้เกณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่ได้ บริษัทเอกชนที่เข้าร่วมประมูลอย่าง บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ BTS ก็คงจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดอยู่ดี ซึ่งนั่นจะยิ่งทำให้กระบวนการประมูลโครงการนี้ ที่วันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องล่าช้ากว่ากำหนเดิมไปไม่น้อยกว่า 3-6 เดือนอยู่แล้ว อาจต้องทอดยาวไปอีกไม่น้อยกว่า 6 เดือน – 1 ปี
มีอย่างที่ไหน กำหนดหลักเกณฑ์การประมูล (RFP) กันมาเป็นปี ๆจนนำเสนอหลักเกณฑ์ผ่านบอร์ดกระทรวงคมนาคมต้นสังกัด และคณะรัฐมนตรี (ครม.) จนออกมาเป็นประกาศเงื่อนไขการประมูลและขายซองประมูลให้เอกชนรับเหมาเอาไปศึกษากันเป็นวรรคเป็นเวร เตรียมจะยื่นซองประมูลกันอยู่แล้ว จู่ๆ รฟม. กลับลุกขึ้นมารื้อเกณฑ์ประมูลคัดเลือกใหม่ชนิดไม่มีปี่ ไม่มีขลุ่ยซะงั้น แถมเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกใหม่ที่ว่า ก็หาได้มีหลักประกันจะทำให้ รฟม.ได้ผู้รับเหมาสัมปทานที่มีศักยภาพเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการนี้ ตรงกันข้าม กลับสร้างข้อกังขาให้สังคม ในประเด็นที่มุ่งแต่จะเอื้อประโยชน์ ให้กลับบริษัทรับเหมาบางรายเท่านั้น...แบบนี้จะไม่ให้ผู้คนเขาสงสัย มี Invisible hand ที่ไหนชักใยอยู่เบื้องหลังกันได้ยังไง จริงไหมท่านผู้ว่าฯ ภคพงษ์ ศิริกันทรมาศ ที่เคารพ!!!
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี