เพราะ “นวัตกรรม” เป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาประเทศ “กลุ่ม ปตท.” จึงได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้าน “วิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี” อาทิ การก่อตั้ง สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) ขึ้นที่ ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ในปี 2558 มุ่งเน้นการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม และเทคโนโลยีโดยเฉพาะ เปิดสอนในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก จำนวน 4 สำนักวิชา ได้แก่
1.สำนักวิชาวิทยาการพลังงาน (School of Energy Science and Engineering: ESE) 2.สำนักวิชาวิทยาการโมเลกุล (School of Molecular Science and Engineering: MSE) 3.สำนักวิชาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมชีวโมเลกุล (School of Biomolecular Science and Engineering: BSE) และ 4.สำนักวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (School of Information Science and Technology: IST) โดยตั้งเป้าหมายให้ติด 1 ใน 50 อันดับแรกของโลกด้านมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำ
เช่นเดียวกับการก่อตั้ง โรงเรียนกำเนิดวิทย์ (KVIS) ที่เริ่มเปิดการเรียนการสอนในปี 2558 เช่นกัน โดยโรงเรียนกำเนิดวิทย์ เปิดสอนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในลักษณะของโรงเรียนประจำ รับผู้ที่มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มาบ่มเพาะพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพสู่การเป็นเป็นนักวิจัย นักประดิษฐ์ และนักนวัตกรรมชั้นนำของประเทศในอนาคต อีกทั้งจัดการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อวางรากฐานสู่โอกาสการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีในมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำของโลก
ปัจจุบัน สถาบันวิทยสิริเมธี มีนิสิตทั้งหมด 6 รุ่น จำนวน 247 คน นับเป็นปีที่ 5 แล้วที่เปิดการเรียนการสอน พร้อมด้วยผลงานอันน่าภาคภูมิใจ เช่น ได้รับการจัดอันดับจาก Nature Index ให้ขึ้นสู่อันดับ 1 มหาวิทยาลัยของประเทศไทยที่มีผลงานวิจัยชั้นเลิศในทุกสาขาวิชาด้าน Natural Sciences ทั้ง Physical Sciences, Life Sciences, Chemical Sciences และ Earth & Environmental Sciences
ส่วนในระดับภูมิภาคนั้นได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับที่ 4 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) โดยอันดับที่ 1-3 เป็นของมหาวิทยาลัยจากประเทศสิงคโปร์ รวมถึงการครองอันดับที่ 1 ของประเทศไทย เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน ในสาขา Chemical Sciences (ที่มา : ข้อมูลการจัดอันดับ ณ วันที่ 14 ก.ค. 2563) ขณะที่ ร.ร.กำเนิดวิทย์ มีนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2562 มีจำนวน 65 คน
ในจำนวนนี้ไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำต่างประเทศจำนวน 30 คน และศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย 35 คน และยังได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันด้านวิชาการในต่างประเทศ อาทิ การแข่งขันฟิสิกส์สัประยุทธ์ระดับนานาชาติ การแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระดับนานาชาติ รวมถึงมีผลงานทางด้านวิชาการที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารวิชาการ และมีผลงานที่สามารถยื่นขอรับอนุสิทธิบัตรได้
นอกจากนี้ยังมีการก่อตั้ง สถาบันวิจัยปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (Artificial Intelligence Research Institute Thailand) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง สถาบันวิทยสิริเมธี กับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) เพื่อเป็นศูนย์กลางให้บริการสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ครบวงจร โดยดำเนินการมาแล้วกว่า 1 ปี พัฒนากำลังคนด้านดิจิทัลไปแล้วไม่น้อย 500 ราย จากหลักสูตรวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) และ AI ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง
ศูนย์ความร่วมมืองานวิจัยและพัฒนา PTTEP-ARV-VISTEC R&D Collaboration Center (RDCC) เป็นการผนึกกำลังกันของ “ปตท.สผ.” บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด (เออาร์วี) และ สถาบันวิทยสิริเมธี เพื่อรองรับการวิจัยและพัฒนา และทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียม รวมถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์
โครงการศูนย์วิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ปตท.สผ. (PTIC) ในพื้นที่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) ดำเนินกิจกรรมด้านวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ร่วมกับพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนาบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานใน EECi ให้นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง แบ่งแผนการก่อสร้างออกเป็น 3 ระยะ 1.เน้นเรื่องโครงสร้างพื้นฐานและสนามทดสอบอากาศยานไร้คนขับ 2.เป็นการพัฒนาด้านโรงงานต้นแบบและพื้นที่ทดสอบเพื่อรองรับอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ และโครงการที่เพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตปิโตรเลียม และ 3.เป็นการพัฒนาเพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีพลังงานทางเลือก และรองรับธุรกิจใหม่ รวมถึงโครงการ “วังจันทร์วัลเลย์” ศูนย์กลางด้านงานวิจัยและนวัตกรรม รองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจตามนโยบาย Thailand 4.0 และนำไปสู่การเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชน
สำหรับวังจันทร์วัลเลย์ ได้รับการประกาศให้เป็นเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ จากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เป็นการพัฒนาพื้นที่ในรูปแบบ Smart Natural Innovation Platform บนพื้นที่ 3,454 ไร่ แบ่งออกเป็นพื้นที่เพื่อการศึกษา (Education Zone) พื้นที่เพื่อการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม (Innovation Zone) และพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวก ที่พักอาศัยและสันทนาการ (Community Zone) ที่มีระบบนิเวศนวัตกรรมที่เป็นเลิศ
โดยมี อาคารศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะ(Intelligence Operation Center หรือ IOC) ศูนย์กลางในการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคของเมืองอย่างเบ็ดเสร็จและมีประสิทธิภาพ ด้วยระบบปฏิบัติการและระบบติดตามที่ทันสมัย ผนวกกับการแสดงผลแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง สามารถควบคุมและวิเคราะห์ข้อมูลจากระบบงานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ต่อเนื่อง ส่งผลให้สามารถบริหารจัดการเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันวิทยสิริเมธี ประจำปีการศึกษา 2562 ในระดับปริญญาโท จำนวน 4 ราย ระดับปริญญาเอก จำนวน 8 ราย และพระราชทานทุน “ศรีเมธี” ประจำปีการศึกษา 2563 ให้กับนิสิตของสถาบันฯ ที่มีผลการเรียนดีเยี่ยม จำนวน 8 ราย
รวมทั้งพระราชทานประกาศนียบัตรแก่ผู้แทนนักเรียนโรงเรียนกำเนิดวิทย์ ที่สำเร็จการศึกษา รุ่นที่ 3 นอกจากนี้ยังได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานเปิดศูนย์ความร่วมมืองานวิจัยและพัฒนา PTTEP-ARV-VISTEC R&D Collaboration Center (RDCC) และเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิด อาคารศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะ (Intelligence Operation Center หรือ IOC)
จากหลากหลายการดำเนินงานข้างต้น นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่ม ปตท. ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จึงได้ก่อตั้งสถาบันวิทยสิริเมธีและโรงเรียนกำเนิดวิทย์ขึ้น เช่นเดียวกับวังจันทร์วัลเลย์ ที่คาดหวังว่าจะเป็นการสร้างความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่สำคัญ เพื่อร่วมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยอย่างยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี