เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด นำสื่อมวลชนร่วมทดสอบสมรรถนะการขับขี่ของซิตี้คาร์ 2 รุ่นใหม่ ภายใต้ “เดอะ ซิตี้ ซีรี่ส์” ได้แก่ ฮอนด้าซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ ซิตี้คาร์สปอร์ตแฮทช์แบ็กน้องใหม่ที่พร้อมมูฟสู่ทุกจุดหมายด้วยขุมพลังเทอร์โบเครื่องยนต์1.0 ลิตร VTEC TURBO 122 แรงม้าให้การขับขี่ที่สนุก ทรงพลัง และให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม มาพร้อมความอเนกประสงค์กับเบาะนั่งอัลตรา ซีท และครบครันด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
และ ฮอนด้า ซิตี้อี : เอชอีวี ใหม่ ซิตี้คาร์ Full Hybrid รุ่นแรกของเซกเมนต์มาพร้อมระบบขับเคลื่อน Sport Hybridi-MMD ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร และมั่นใจในทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) อีกทั้งฟังก์ชั่นการใช้งานเพื่อความสะดวกสบายระดับพรีเมียมรวมระยะทางไป-กลับจากกรุงเทพฯ สู่เขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา กว่า 400 กิโลเมตร
โดยก่อนเริ่มกิจกรรมการทดสอบสมรรถนะการขับขี่ของยนตรกรรมทั้ง 2 รุ่น คณะสื่อมวลชนได้ร่วมรับฟังข้อมูลผลิตภัณฑ์ และรายละเอียดการพัฒนาฮอนด้า ซิตี้แฮทช์แบ็ก ใหม่ และ ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ที่มาพร้อมความโดดเด่นด้วยคาแร็กเตอร์ที่แตกต่างกัน เพื่อตอบสนองทุกความต้องการที่หลากหลายได้อย่างครอบคลุม
ในระหว่างเส้นทางการทดสอบขับบนเส้นทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ เขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาสื่อมวลชนจะได้สัมผัสกับ 2 ขุมพลังการขับเคลื่อนที่แตกต่าง ทั้งเครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์วใน ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็กใหม่ ที่มอบกำลังสูงสุด 122 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที ตอบสนองอย่างทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตรที่ 2,000-4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม ขับสนุกดั่งใจด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด (7-Speed Paddle Shift) และสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 100 กรัม/กิโลเมตร และสามารถรองรับน้ำมัน E20
และระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ใน ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวีใหม่ระบบ Full Hybrid ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC4 สูบ16 วาล์วพร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,000 รอบต่อนาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 85 กรัม/กิโลเมตร และสามารถรองรับน้ำมัน E20
โดย ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในทุกการเดินทาง ได้แก่
• ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC)
• ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LaneKeeping Assist System: LKAS)
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam:AHB)
ตลอดเส้นทางการทดสอบสื่อมวลชนได้สัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่ที่มีคาแร็กเตอร์แตกต่างกันของขุมพลังเทอร์โบในซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ และระบบขับเคลื่อนSport Hybrid i-MMDในซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่บนถนนหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นถนนในเมือง และนอกเมืองที่มีทั้งทางตรง ทางโค้ง และทางขึ้น-ลงเนินเขาซึ่งจะได้พิสูจน์ถึงสมรรถนะการขับขี่อันทรงพลัง อัตราเร่งที่ตอบสนองทันใจความคล่องตัว การยึดเกาะถนนที่สามารถควบคุมได้อย่างมั่นใจในทุกสภาพการขับขี่
ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่
มาพร้อมความสปอร์ตโดดเด่นเต็มขั้นกับรุ่น RS ที่โฉบเฉี่ยวด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคันมาพร้อมกระจังหน้าแบบ Gloss Black และสัญลักษณ์ RSกันชนหน้าและกันชนหลังสไตล์สปอร์ตผสานดีไซน์อันลงตัวด้วยไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟท้ายแบบ LED และไฟตัดหมอกแบบ LED กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ตปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัวสปอยเลอร์หลังตกแต่งสีดำแบบสปอร์ตและล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้วมาพร้อมสีใหม่สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง อัปเกรดความสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยแถบสีแดง มาพร้อมเบาะนั่ง อัลตรา ซีท (ULTR) อันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้าที่แยกพับได้แบบ 60:40 สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ได้ถึง 4 โหมด พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ ได้แก่
• Utility Mode: เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านปรับพับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง
• Long Mode: เบาะด้านหน้าและด้านหลังปรับพับเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
• Tall Mode: เบาะด้านหลังพับขึ้น เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง
• Refresh Mode: เบาะด้านหน้าพับเชื่อมต่อกับเบาะด้านหลัง สร้างพื้นที่ผ่อนคลายสะดวกสบายสูงสุด
นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานระดับพรีเมียม อาทิ หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่พร้อมมาตรวัดเรืองแสงสีแดงสไตล์สปอร์ต (เฉพาะรุ่น RS) ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เป็นต้น
ครบครันด้วยมาตรฐานความปลอดภัย มอบความมั่นใจในทุกการเดินทาง อาทิ ถุงลม 6 ตำแหน่ง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก(EBD) ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist-VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist-HSA) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ (Multi-angle RearviewCamera) และเทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ฮอนด้าคอนเนค (Honda CONNECT)เป็นต้น
โดยฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็กใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่
• รุ่น RS ราคา 749,000 บาท
• รุ่น SV ราคา 675,000 บาท
• รุ่น S+ ราคา 599,000 บาท
ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่มาพร้อมอัตลักษณ์อันโดดเด่นของซิตี้คาร์ไฮบริด ด้วยโลโก้ฮอนด้าสีฟ้า (H Mark) และสัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้ายสปอร์ตพรีเมียมยิ่งขึ้นกับดีไซน์ RS รอบคันด้วยกระจังหน้า และสปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ตพร้อมไฟเลี้ยวในตัว และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้วมาพร้อมสีใหม่ สีน้ำเงินออบซิเดียน (มุก)
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบายในทุกมิติเติมอารมณ์สปอร์ตหรูด้วยเบาะหนังกลับดีไซน์สปอร์ตตกแต่งด้วยด้ายสีแดงครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม อาทิ มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ช่องปรับอากาศตอนหลังและระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วแบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันพร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังครบครันด้วยมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อความมั่นใจในทุกการเดินทาง อาทิ ถุงลม 6 ตำแหน่ง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist-VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist-HSA) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) และเทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT)
อุ่นใจยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน(Honda LaneWatch)ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบ Auto Brake Hold และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)เป็นต้นโดยฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่รุ่น e:HEV RS ราคา 839,000 บาท
ลูกค้าที่สนใจสัมผัสยนตรกรรมภายใต้ “เดอะ ซิตี้ ซีรี่ส์” สามารถลงทะเบียนและทดลองขับ ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ และ ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ผ่านทาง www.honda.co.th/testdrive
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ที่ปรึกษาการขายผ่าน Honda Virtual Experience ที่ virtualexperience.honda.co.th หรือ ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร.0-2341-7777 และเตรียมสัมผัสกับ ฮอนด้าซิตี้แฮทช์แบ็กใหม่ ณ โชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้า ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2564 เป็นต้นไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฮอนด้าซิตี้แฮทช์แบ็กใหม่ได้ที่ www.honda.co.th/cityhatchback และ ฮอนด้าซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ ได้ที่ www.honda.co.th/cityehev
หมายเหตุ
อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี