นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประจำเดือนมกราคม 2564 ประกอบด้วยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) และสมาคมธนาคารไทย ว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยหยุดชะงัก การท่องเที่ยวในประเทศซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักไม่สามารถเดินต่อได้ชั่วคราว หลังจากมีมาตรการเข้มงวดจำกัดการเดินทางในหลายจังหวัดซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 2-3 เดือน อีกทั้งยังส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุน
“เบื้องต้นคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2564 จะขยายตัวในกรอบ 1.5% ถึง 3.5% หากควบคุมการแพร่ระบาดได้ภายใน 3 เดือน ลดลงจากประมาณการเดิมที่คาดว่าขยายตัว 2.0% ถึง 4.0% เช่นเดียวกับการส่งออกในปี 2564ที่คาดว่าจะขยายตัว 3.0% ถึง 5.0% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ในกรอบ 0.8% ถึง 1.0%” นายกลินท์กล่าว
ทั้งนี้ ภาครัฐควรเร่งหามาตรการ ควบคุมโรคระบาดและช่วยเหลือผู้ประกอบการ และแรงงานที่ได้รับผลกระทบ ประกอบด้วย1.เร่งควบคุมการแพร่ระบาดและบังคับใช้มาตรการต่างๆที่ประกาศออกมาอย่างเคร่งครัด ควบคุมดูแลที่อยู่ของคนงานต่างด้าวให้เหมาะสมเพื่อระงับการแพร่ระบาด เร่งจับผู้กระทำผิดทั้งบ่อนการพนัน และการนำเข้าแรงงานต่างด้าวอย่างผิดกฎหมาย รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้สินค้าของประเทศว่า ปัญหาการแพร่ระบาดส่วนใหญ่มาจากคนสู่คน ไม่ใช่จากอาหารหรือสินค้าสู่คน
2.ขอให้ภาครัฐเร่งดำเนินการเรื่องงบประมาณช่วยเหลือจากผลกระทบโควิด2 แสนล้านบาท ควรกำหนดวิธีการให้ชัดเจนปฏิบัติได้เร็วเพื่อพยุงเศรษฐกิจ เช่น อาจนำมาต่ออายุโครงการคนละครึ่งและเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายต่อบุคคลเป็น 5,000 บาท ลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ อาทิ ลดค่าไฟ 5% รวมถึงการใช้เครื่องมือทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ
3.เร่งรัดเรื่องวัคซีนให้ได้มาตามกำหนดเวลาและมีปริมาณที่เพียงพอรวมถึงกำหนดวิธีการและหลักเกณฑ์ในการกระจาย การขนส่ง และฉีดวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ และ 4.เร่งรัดการใช้และการเจรจาการค้าทวิภาคี รวมถึงการให้สัตยาบันลงนามข้อตกลงความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(อาร์เซ็ป)ในการประชุมรัฐสภา เพื่อให้ข้อตกลงที่ลงนามไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563มีผลบังคับใช้กลางปีนี้ เป็นแรงส่งช่วยเศรษฐกิจฟื้นตัวช่วงครึ่งปีหลัง
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน สอท. กล่าวว่าจากข้อเสนอดังกล่าวเพื่อให้ถึง พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมโดยตรงจึงขอให้จัดประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากโควิด-19 (ศบศ.) ภายในเดือนมกราคมนี้เพื่อเสนอ 4 มาตรการจากภาคเอกชนขณะเดียวกันจะเสนอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และธนาคารพาณิชย์ เพิ่มมาตรการช่วยเหลือธุรกิจที่ต้องปิดกิจการตามคำสั่งรัฐ อาทิ สถานบันเทิง ฟิตเนส โดยอาจหยุดดอกเบี้ยให้กลุ่มธุรกิจดังกล่าว
“คาดว่าเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการส่งออกช่วงไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม 2564) คงไม่โตมาก เพราะประเทศจีนมีเทศกาลตรุษจีน วันหยุดยาว ขณะที่ไทยกำลังเจอปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์อีกครั้งหลายประเทศกำลังล็อกดาวน์ อาทิ ญี่ปุ่น การส่งออกน่าจะกลับมาขยายตัวช่วงไตรมาส 2 หรือไตรมาส 3 เป็นต้นไป”นายสุพันธุ์กล่าว
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า รัฐบาลควรใช้มาตรการแก้ปัญหาต้นเหตุการระบาดโควิด-19 รอบใหม่นี้ให้ตรงจุด มีปัญหาตรงไหนให้แก้ตรงนั้น ส่วนข้อเรียกร้องเรื่องมาตรการทางการเงินสำหรับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบนั้น ปัจจุบัน ธปท. มีนโยบายให้ธนาคารพาณิชย์ช่วยเหลือปรับโครงสร้างหนี้รายธุรกิจตลอดปี 2564 อยู่แล้ว ส่วนจะมีมาตรการแบบเหมาเข่งจากธปท.หรือไม่ ต้องรอการพิจารณาร่วมกับภาครัฐอีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี