nn เดิมทีคิดว่า ปี 2562-2563 เป็นปีที่หนักหนาสาหัสสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้ว และน่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวได้ในปีนี้...แต่ด้วยสถานการณ์และเงื่อนไขที่เปลี่ยนไปเพราะผลกระทบจากโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้ดุเหมือนว่าในปีนี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะยังหนักหนาสาหัสอยู่เหมือนเดิมและอาจจะหนักกว่า 2 ปีก่อนด้วยซ้ำไป...
จากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่รายงานดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล เมื่อ 2-3 วันก่อน...พบว่า ตัวเลขของไตรมาส 4 ปี 2563 ผู้ประกอบการยังคงขาดความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย แม้ว่าค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯภาพรวมได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนก็ตาม...ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า (Expectations Index) มีค่าเท่ากับ 54.4 ที่เพิ่มขึ้นจาก ไตรมาส 4 ปี 2563...เพราะคาดหวังว่าวัคซีนป้องกัน COVID-19 จะนำมาใช้อย่างกว้างขวางและสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ และเศรษฐกิจจะขยายตัวได้มากขึ้น...แต่จะบอกว่ามุมมองเชิงบวกเป็นผลมาจากกลุ่มผู้ประกอบการฯ Listed Companies ที่มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้าเท่ากับร้อยละ 59.7 แต่สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการฯ Non-listed Companies มีค่าดัชนีเพียงร้อยละ 46.5 ...แสดงให้เห็นได้ว่ากลุ่มผู้ประกอบการ Non-listed Companies ยังคงขาดความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในปี 2564 ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการฯListed Companies มีความเชื่อมั่นมากขึ้นชัดเจนในทุกด้าน โดยเฉพาะในด้านยอดขาย การลงทุน และการเปิดตัวโครงการใหม่
แต่ต้องบอกว่าข้อมูลข้างต้นนั้น..ได้ดำเนินการในช่วงปลายปี 2563 ก่อนการแพร่ระบาดของ COVID-19 รอบใหม่….ดังนั้นจึงคาดได้ว่า ในช่วงครึ่งปีแรก โดยเฉพาะในไตรมาสแรก ปี 2564 นี้ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการคงจะปรับลดลงจากการสำรวจช่วงปลายปีอย่างแน่นอน...และผู้ประกอบการยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับการเปิดขายโครงการใหม่ เพื่อลดจำนวนอุปทานเหลือขายที่ยังมีอยู่มากในตลาด และรอดูผลกระทบจากการระบาดรอบใหม่อีกครั้งหนึ่ง...และภายใต้สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปจากช่วงการสำรวจ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ประเมินว่า การเปิดตัวปี 2564 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จะมีจำนวนประมาณ 89,000 หน่วย แบ่งเป็นแนวสูง 36,000 -37,000 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 30-40% และแนวราบ 52,000 หน่วย แต่ถ้าโควิดยืดเยื้ออาจจะลดลงอีก 10,000 หน่วย เหลือ79,000 หน่วย เท่ากับปีนี้จะอยู่ระหว่าง 79,000 -89,000 หน่วย สูงกว่าปี 2563 ที่เปิดรวม 71,500 หน่วย
จากการคาดการณ์ผ่านการจำลองหลายสถานการณ์ ที่แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ระดับดีที่สุด (best) คือ ตลาดจะโต 5-10% ระดับกลาง (base) ตลาดทรงตัวบวกลบไม่เกิน 0.5 % และระดับแย่ที่สุด (worst) ติดลบ 10% เท่ากับปี 2563 เท่ากับภาพรวมตลาดทั่วประเทศลดลงถึง 20% ซึ่งรุนแรงพอควร เพราะต่ำสุดในรอบ 5 ปี
ใกล้เคียงกับช่วงเกิดน้ำท่วมใหญ่ปี 2554…!! มีความเป็นไปได้ว่าปี 2564 จะติดลบถึง 10% เนื่องจากผู้บริโภคได้รับผลกระทบในแง่ของรายได้ต่อเนื่องมานาน ทำให้ความต้องการใหม่ของที่อยู่อาศัยได้รับผลกระทบรุนแรง
อย่างที่ทราบกันว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สำคัญต่อภาพรวมเศรษฐกิจเพราะมีธุรกิจเกี่ยวเนื่องมากมาย รัฐจึงต้องเร่งออกมาตรการมาประคับประคอง แม้ว่าก่อนหน้านี้รัฐจะออกมาตรการต่างๆ มาบ้างแล้ว แต่ว่าถึงนาทีนี้ด้วยเงื่อนไขและโจทย์ที่ยากขึ้นก็ต้องบอกว่าที่รัฐทำมานั้นยังไม่พอ และโจทย์ยากตอนนี้คือ สภาพคล่องของผู้ประกอบการที่มีสายป่านสั้น ซึ่งก็ต้องวัดใจรัฐบาลว่าจะกล้าตัดสินใจใส่เม็ดเงินมาช่วยเรื่องสภาพคล่องของผู้ประกอบการหรือไม่ โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ไม่มีโอกาสระดมทุนมากนัก โดยเฉพาะเดินเข้าไปหาธนาคารพาณิชย์....เลิกคิดได้เลย !!
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี