นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตลาดอาหารฮาลาล (Halal Food) ในปัจจุบันถือเป็นตลาดหลักที่ทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรมุสลิมโลกที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 1.6 พันล้านคนในปี 2553 เป็น 2.8 พันล้านคนในปี 2593 ส่งผลให้ในอนาคตตลาดอาหารฮาลาลจะยิ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดดในกลุ่มผู้บริโภคทั้งที่เป็นมุสลิมและไม่ใช่มุสลิม และจากข้อมูลของ Salaam Gateway สถาบันวิจัยด้านเศรษฐกิจโลกอิสลาม ระบุปี 2561 ตลาดอาหารฮาลาล
มีมูลค่า 1,369 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 17% ของค่าใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มทั่วโลก และคาดว่าในปี 2567 ตลาดอาหารฮาลาลจะมีมูลค่าถึง 1,972 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเฉลี่ย (CAGR) ปีละ 6.3%
ปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารฮาลาลรายใหญ่เป็นอันดับที่ 11 ของโลก ในปี 2562 ก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไทยมีมูลค่าส่งออกถึง 35,037 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 2.44 ของเปอร์เซ็นต์มูลค่าตลาดอาหารฮาลาลโลก
ในปีงบประมาณ 2564 กรมมีแผนงานสำคัญในการส่งเสริมสินค้าฮาลาล อาทิ การอบรมให้ความรู้ผู้ประกอบการสินค้าฮาลาลเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ตลาดเป้าหมาย การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอาหารฮาลาล5 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อการค้าระหว่างประเทศ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าอาหารฮาลาลในห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์สโตร์ในตลาดภูมิภาคตะวันออกกลาง
จากความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ตลาดสินค้าฮาลาลมีแนวโน้มที่สดใสมากขึ้น ปัจจุบันภาครัฐได้ลงมติเห็นชอบวิสัยทัศน์และนโยบายการส่งเสริมสินค้าและผลิตผลเกษตรมาตรฐานฮาลาล โดยสอดคล้องกับแผนระดับชาติซึ่งเป็นทิศทางการพัฒนาประเทศ โดยมีแผนที่สําคัญ 3 แผน ประกอบด้วย 1. แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) 2. แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติประเด็นการเกษตร (พ.ศ. 2561 – 2580) และ 3. แผนพัฒนาการเกษตรในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 – 2564) ซึ่งกำหนดวิสัยทัศน์ให้ประเทศไทยเป็นประเทศผู้นําในการพัฒนา ผลิต และส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารที่ได้รับความเชื่อมั่นในระดับสากลสู่ตลาดโลกด้วยมาตรฐานฮาลาลไทย โดยใช้หลักศาสนา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมในปี 2570
โดยมีการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น การจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า (Halal Hub) การจัดตั้งสถาบันฮาลาล(Halal Academy) การพัฒนาฐานข้อมูลฮาลาล (ThailandHalal Big Data) และการส่งเสริมฐานข้อมูลวัตถุดิบฮาลาล(H Number) รวมทั้งหารือร่วมกับหน่วยงานศูนย์ฮาลาลขององค์การอาหารและยาซาอุดีอาระเบีย (Saudi Food and Drug Authority – SFDA) สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (The Central Islamic Committee of Thailand - CICOT) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันผลักดันการส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลส่งออกเข้าสู่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นศูนย์กลางแห่งมาตรฐานฮาลาล
นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสทางการค้าการส่งออกสินค้าฮาลาลไปยังกลุ่มตะวันออกกลาง (GCC) ที่เป็นตลาดขนาดใหญ่ประกอบด้วยจำนวนมุสลิมราว 396 ล้านคน ( 90% ของจำนวนประชากรทั้งหมดของกลุ่มประเทศ) โดยมีความต้องการในด้านสินค้าเกษตรและอาหารฮาลาลที่หลากหลาย รวมถึงอาหารแห้งและอาหารกระป๋อง พร้อมทั้งปลดล็อกการส่งออกสินค้าอาหารประเภทสัตว์ปีกแช่แข็ง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลอื่นๆ ของไทย จะทำให้สามารถส่งออกได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
“ตลาดอาหารฮาลาลไม่เพียงแต่เป็นของชาวมุสลิมที่เป็นตลาดหลัก ซึ่งมีมูลค่าสัดส่วนการใช้จ่ายในการบริโภคคิดเป็นอัตราส่วนราว 17% แต่ยังเป็นที่น่าสนใจในประเทศที่ไม่ใช่มุสลิม (Non-OIC) อีกหลายประเทศเนื่องจากมีอัตราประชากรมุสลิมที่เพิ่มสูงขึ้น หรือเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวของชาวมุสลิม เช่น อินเดีย จีน สิงคโปร์ และหรือแม้แต่ไทยเอง จากข้อมูลเบื้องต้นจะเห็นว่าตลาดอาหารฮาลาลโลกมีแนวโน้มจะเข้ามามีบทบาท ขยายขนาด และทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี