nn เชื่อว่าทั้งนักลงทุนและคนที่ไม่ใช่นักลงทุนแต่ติดตามข่าวสารด้านเศรษฐกิจ คงจะตั้งตารอผลการเทรดวันแรกของหุ้นน้องใหม่ไซด์ใหญ่อย่าง...บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR)...เพราะตลอดช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา...หุ้นไอพีโอของ OR สร้างปรากฏการณ์ให้กับตลาดหุ้นไทยไม่น้อยเลยทีเดียว...เพราะมีนักลงทุนทุกประเภทให้ความสนใจหุ้นตัวนี้อย่างสูงมากๆๆๆๆ...
อย่างไรก็ตามหากว่าจะตัดสินใจลงทุนกับหุ้นตัวนี้ทราบข้อมูลที่สำคัญๆของบริษัทนี้ด้วย เช่น..บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) เป็นธุรกิจปั๊มน้ำมันที่ สาขามากที่สุดในประเทศไทย มีส่วนผสมของธุรกิจค้าปลีก และเป็นบริษัทในเครือ ปตท. ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติ มีสถานีบริการ (ปั๊มน้ำมัน) 2,296 แห่ง มีธุรกิจค้าปลีก เช่น คาเฟ่ อเมซอน 3,440 แห่ง, ร้านสะดวกซื้อ Jiffy และ 7-Eleven 2,046 แห่ง รายได้จากธุรกิจน้ำมัน มีสัดส่วนถึง 91.38% ส่วนธุรกิจค้าปลีกและบริการอื่นๆ 3.66% กำไรเบื้องต้น ( EBITDA ) จาก ธุรกิจน้ำมัน 68.67% และ จากธุรกิจค้าปลีกและบริการอื่นๆ 25.04%
ข้อมูลย้อนหลัง 3 ปี (2560-2562) มีรายได้จาก2ธุรกิจหลักคือน้ำมันและค้าปลีก อยู่ที่ 550,717.6 ล้านบาท 599,173.9 ล้านบาท และ 583,393.0 ล้านบาท ตามลำดับ โดยงวด 9 เดือนแรกของปี 2563 มีรายได้รวม 319,308.41 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิปี 2650-2562 จำนวน 12,671.1 ล้านบาท 9,493.1 ล้านบาท และ 10,895.8 ล้านบาทตามลำดับ และงวด 9 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 5,868.5 ล้านบาท ส่วนอัตรากำไรสุทธิปี 2560-2562 อยู่ที่ 2.3% 1.6% และ 1.9% ตามลำดับ ส่วนงวด 9 เดือนแรกของปีนี้มีอัตรากำไรสุทธิ 1.8%
ส่วนแผนการใช้เงินระดมทุนครั้งนี้ส่วนใหญ่ยังให้น้ำหนักไปที่ปั๊มน้ำมันและธุรกิจต่างประเทศ โดยมูลค่าระดมทุนอยู่ที่ประมาณ 41,760-46,980 ล้านบาท (ไม่รวมจำนวนหุ้นส่วนเกิน) โดย OR มีแผนการลงทุนสำหรับ ธุรกิจน้ำมัน 13,300 ล้านบาท ในการขยายสถานีบริการ PTT Station อีก 8,500 ล้านบาท สำหรับลงทุนคลังน้ำมันและศูนย์กระจายสินค้า 3,800 ล้านบาท สำหรับลงทุนสำหรับการตลาดพาณิชย์ธุรกิจน้ำมัน และ 9,800 ล้านบาท สำหรับขยายเครือข่ายร้านค้าปลีก อีก 5,000-9,500 ล้านบาท สำหรับลงทุนธุรกิจต่างประเทศ ก้อนสุดท้าย 679-8,309 ล้านบาท เป็นทุนหมุนเวียนและคืนหนี้
นอกจากนี้หลังจากขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 2,610 ล้านหุ้น และจัดสรรหุ้นส่วนเกินจำนวนไม่เกิน 390 ล้านหุ้น บมจ.ปตท.จำกัด (มหาชน) PTT ยังถือหุ้น ใน OR อยู่ 77.5% หากว่าไม่มีการใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นส่วนเกินทั้งจำนวน และ 75% หากว่ามีการใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นส่วนเกินทั้งจำนวน ดังนั้นเท่ากับว่าสภาพคล่องหุ้นหมุนเวียนในตลาดของ OR จะอยู่ที่ 22.5-25% และในสัดส่วนนี้มีหุ้นที่นักลงทุนสถาบันถืออยู่ด้วย ซึ่งปกติการลงทุนจะเน้นลงทุนระยะกลาง-ยาวมากกว่า และการกำหนดราคาหุ้น IPO ที่ 16-18 บาทต่อหุ้น มีอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) 23.9-26.9 เท่า ขณะที่ค่าเฉลี่ยของบริษัทที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกันทั้งในและต่างประเทศอยู่ที่ 31.7 เท่า จึงบอกว่าได้ว่าหุ้นตัวนี้ยังไม่แพงมากนักในราคานี้
ความเสี่ยงของ OR นอกจากคู่แข่งขันในตลาด เช่น BCP ที่ ปั๊มบางจาก 1,201 แห่ง, ร้านกาแฟอินทนิล 600 แห่ง PTG ที่มี ปั๊มพีที 2,100 แห่ง ร้านกาแฟพันธุ์ไทย 260 แห่ง และ ESSO ที่มี ปั๊มเอสโซ่ 676 แห่ง และ ที่มี ปั๊มซัสโก้ 242 แห่ง แล้ว ก็ยังมีประเด็นเรื่องของ เทรนด์ การสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) ของประเทศไทย ถ้าดูจากโครงสร้างธุรกิจหลักของ OR แล้ว ก็อาจพูดได้ว่าอาจจะเสียเปรียบในเชิงการแข่งขัน แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ก็มองว่า ด้วยศักยภาพของ OR ก็จะเข้าไปเล่นในตลาด EV Car ได้ในที่สุด โดยใช้จุดเด่นด้านเครือข่ายปั๊มน้ำมันมากที่สุดในประเทศมาเป็นแต้มต่อ
นี่คือข้อมูลเบื้องต้นสำคัญๆ ที่นักลงทุนควรรู้ แต่หากว่าตัดสินใจจะมีหุ้นตัวนี้ในพอร์ตของพวกท่านก็ควรต้องอ่านและศึกษาข้อมูลในเอกสารชี้ชวนอย่างละเอียดและทำความเข้าใจกับมันให้ชัดเจน รวมถึงพิจารณาถึงความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้ด้วยนะครับ
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี