NEW MG HS PHEV รถอเนกประสงค์รุ่นล่าสุดของเอ็มจี มาพร้อมเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ผสานพลังสุดยอดแห่งระบบขับเคลื่อน 2 ระบบเข้าด้วยกัน ทั้งเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย และระบบความปลอดภัยขั้นสูง รวมถึงการติดตั้งระบบ “i-SMART” รุ่นใหม่ล่าสุด

NEW MG HS PHEV ถูกพัฒนาด้วยแนวคิด “REFINEMENT” ซึ่งต่อยอดความโดดเด่นมาจากรุ่น MG HS ไม่ว่าจะเป็น กระจังหน้าเอกลักษณ์เฉพาะของเอ็มจี แบบ Stellar Magnetic Fieldไฟหน้า LED Projector พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) ไฟท้าย LED Space Light Field ไฟเลี้ยวแบบ Sequential แสดงผลแบบไล่ระดับ ทั้งด้านหน้า-หลัง และล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารตกแต่ง ด้วยสี Two-Tone Monaco Blue พร้อมเลือกใช้วัสดุ Soft Touch เบาะหนังคู่หน้าแบบ Sport Bucket Seat ตกแต่งด้วยวัสดุ Alcantaraเบาะนั่งคนขับ ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยด้านหน้า ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทางหลังคาซันรูฟ แบบพาโนรามา หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Full Virtual Dashboard ขนาด 12 นิ้ว และจอควบคุมกลางแบบทัชกรีน ขนาด 10 นิ้ว กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบแยกซ้ายขวา Dual Zone ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบกรองอากาศ PM2.5 กุญแจรีโมทอัจฉริยะ Smart Key พร้อม Push Start ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า รวมทั้งสามารถเลือกบรรยากาศ และสีสันภายในห้องโดยสารด้วย Interactive Ambient Light สามารถปรับได้ 64 เฉดสี

ขุมพลังขับเคลื่อนด้วยระบบ Plug-in Hybrid ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า พร้อมนวัตกรรม Hairpin Design แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาดใหญ่16.6 kWh เกียร์อัตโนมัติ EDU II-10 Speeds กำลังสูงสุด 284 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตัน-เมตร มีโหมดการขับขี่ 5 แบบ ได้แก่ Normal, Eco, EV และ Sportเสริมด้วยปุ่ม Super Sport ซึ่งตามสเปกที่ระบุไว้สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% (EV) ได้ระยะทาง 67 กม. ความเร็วสูงสุด 155 กม./ชม. (โหมด EV)สำหรับการชาร์จไฟมีให้เลือก 2 แบบคือ MG Home Charger ใช้เวลา 4 ชม.และ MG Charger Cable ใช้เวลา 5 ชม.ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System)ที่สามารถชาร์จพลังงานในระหว่างการขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) โดยเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับได้ถึง 3 ระดับ

ช่วงการทดสอบ การขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง ให้ความคล่องตัวสูงและด้วยความที่เป็นรถอเนกประสงค์ ทำให้ทัศนวิสัยโดยรวมจะดีกว่ารถทั่วไป สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล เบาะนั่งโอบกระชับสรีระ พวงมาลัยให้ความแม่นยำดี อัตราเร่งดีมาก ด้วยพละกำลัง 284 แรงม้า เมื่อกดคันเร่งก็พร้อมที่จะพุ่งทะยานไปข้างหน้าทันที ห้องโดยสารเงียบยิ่งขึ้น จากการเพิ่มฟิล์มกันเสียง และแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร ทำให้เพลิดเพลินกับระบบเครื่องเสียง BOSE 8.1 Sound System ได้เต็มรูปแบบ ในส่วนของระบบกันสะเทือนแบบ Euro Tuning Suspension เสริมด้วยระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut และหลัง Multi-link มาพร้อมเหล็กกันโคลงทั้งด้านหน้าและหลังจะขับแบบออนโรด หรือ กึ่งออฟโรดก็สามารถทำได้สบายมาก ในส่วนของระบบiSMART รุ่นล่าสุด ก็ใช้งานง่ายเพียงแค่เริ่มต้นการสั่งการด้วยการพูดว่า “Hello MG” ด้วยเสียงภาษาไทย หรือผ่านหน้าจอทัชสกรีน และแอปพลิเคชั่นบนมือถือก็สามารถใช้งานได้ทันที

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยเหนือระดับมาตรฐานยุโรป อาทิ ระบบเตือนและควบคุมให้รถอยู่ในเลน LAS ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist) ซึ่งทุกระบบสามารถใช้งานได้ง่าย และเลือกที่จะเปิดหรือปิดก็ได้ แต่โดยความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่สมควรที่จะปิดระบบ เพราะจะช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความสะดวก และความปลอดภัยสูงสุด

โดยสรุปแล้ว NEW MG HS PHEV เป็นรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นใหม่ ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ด้วยรูปโฉม ที่โฉบเฉี่ยว มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย และฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย สำหรับราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,359,000 บาท ถ้าชอบต้องไปลองขับก่อนตัดสินใจ!!

นิติ โมราวรรณ