18 กุมภาพันธ์ 2564 ช่วงเย็นของวันที่ 17 ก.พ. 2564 ที่รัฐสภา นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล วันที่ 2 ชี้แจงข้อท้วงติงเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ หรือโครงการ “เราชนะ” กรณีมีคำถามว่าเหตุใดจึงไม่จ่ายเป็นเงินสด ว่า มีเหตุผล 3 ประการ คือ 1.ต้องการลดการสัมผัสเงินสด 2.ต้องการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลแพลตฟอร์ม และ 3.ต้องการกระจายเม็ดเงินที่รัฐบาลจ่ายไปให้เกิดการกระจายในแต่ละสัปดาห์ เพื่อให้มีผลในเรื่องการจับจ่ายใช้สอย
ทั้งนี้ โครงการเราชนะได้เปิดให้ลงทะเบียนมาตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค. 2564 โดยผู้ที่ลงทะเบียนทีหลังก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้ใช้สิทธิ์ เพราะเปิดให้ใช้สิทธิ์ได้จนถึงวันที่ 31 พ.ค. 2564 และถ้าหากจ่ายเงินช้ากว่าสัปดาห์แรก ที่เริ่มจ่ายไปวันที่ 5 ก.พ. 2564 ก็จะมีตกเบิกจ่ายทบให้ แต่เงินจะไม่หายไปไหนอย่างแน่นอน และการกระตุ้นในครั้งนี้ก็มุ่งหวังให้ถึงร้านค้ารายย่อยอย่างแท้จริง
นายอาคม กล่าวต่อไปว่า ส่วนโครงการคนละครึ่ง ที่ผ่านมามีเสียงเรียกร้องจากผู้ให้บริการขนส่ง เช่น แท็กซี่ สามล้อเครื่อง มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ว่าอยากเข้าร่วมด้วย แต่ในเวลานั้นรัฐบาลมองว่ายังไม่จำเป็นและต้องการส่งเสริมระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถเมล์ รถไฟฟ้า แต่สำหรับโครงการเราชนะ ครั้งนี้ในภาคบริการสามารถเข้าร่วมได้และจะได้สิทธิ์ถึง 2 ทาง นอกจากเป็นผู้มีรายได้น้อยมีสิทธิ์ได้รับเงิน 3,500 บาทเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว หากมีผู้ที่ได้สิทธิ์เราชนะมาใช้บริการโดยจ่ายผ่านโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ผู้ให้บริการเองก็จะได้ค่าบริการมาเป็นรายได้อีกส่วนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเราชนะซึ่งเป็นผู้ที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน ที่ต้องไปลงทะเบียนที่ธนาคารกรุงไทย จนเกิดภาพความแออัดเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2564 ที่ผ่านมา ได้ประสานให้ธนาคารของรัฐอีก 2 แห่ง คือธนาคารออมสิน กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดเจ้าหน้าที่ไปสนับสนุนภารกิจของ ธ.กรุงไทยอีกแรงหนึ่ง แต่ที่ไม่สามารถให้ประชาชนไปลงทะเบียนกับธนาคารอีก 2 แห่งดังกล่าวได้ เพราะต้องใช้เครื่องมือของ ธงกรุงไทย ในการลงทะเบียน เช่น ต้องถ่ายรูปให้ใกล้เคียงปัจจุบันมากที่สุด
โดยประชาชนสามารถลงทะเบียนได้ที่ ธ.กรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีหน่วยเคลื่อนที่โดยความร่วมมือกับผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด ในการจัดสถานที่ลงทะเบียน เช่น ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ แล้วทางเจ้าหน้าที่ก็จะร่วมมือกันในส่วนการดูแลอำนวยความสะดวกกับประชาชน แต่ก็จะมีการปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อลดความแออัด โดยในวันที่ 22 ก.พ. 2564 จะเพิ่มจุดให้บริการที่ ธ.ออมสิน และ ธ.ก.ส. โดยเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้บันทึกข้อมูลบัตรประชาชนและถ่ายรูปเจ้าของบัตร ก่อนส่งให้ ธ.กรุงไทย เพื่อดำเนินการตรวจสอบและยืนยันสิทธิ์ต่อไป
“การใช้นั้นถามว่าเมื่อไม่มีมือถือสมาร์ทโฟนแล้วจะใช้อย่างไร ก็ใช้บัตรประชาชนนั่นละครับ ไปสำหรับร้านค้าที่มี EDC ที่เป็นตัวอิเล็กทรอนิกส์ที่จะเสียบบัตรเข้าไปก็จะสามารถใช้ได้เพราะยืนยันตัวตน แต่สำหรับที่ไม่มีเครื่องมือ EDC ตรงนี้ ก็ถ่ายรูปแล้วจะ Process (ประมวลผล) ผ่านตัวผู้ให้บริการหรือร้านค้าต่างๆ ก็จะ Process ข้อมูลตรงนี้ แล้วก็ได้รับการยืนยันว่า OK คนนี้ใช่แน่ เป็นเจ้าของบัตรและเจ้าของสิทธิ์ ก็จะสามารถจ่ายเงินได้นะครับ อันนี้ก็จะแก้ปัญหาตรงนี้ไป” นายอาคม กล่าว
ชมคลิปที่นี่ (นาทีที่ 07.52.55-07.56.36 และ 07.58.08-08.02.15)
https://www.youtube.com/watch?v=1dLrVhlo1wk
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี