นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมการประชุมคณะทำงานระดับสูงว่าด้วยการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียน (High Level Task Force on ASEAN Economic Integration หรือ HLTF-EI) ครั้งที่ 39 เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผ่านระบบประชุมทางไกล ซึ่งเป็นการประชุมระดับปลัดกระทรวงเศรษฐกิจของอาเซียนครั้งแรกของปีนี้ เพื่อติดตามประเมินผลการดำเนินการด้านเศรษฐกิจที่ผ่านมาและวางทิศทางการทำงานในอนาคต รวมถึงการจัดทำวิสัยทัศน์อาเซียนภายหลังปี ค.ศ. 2025
ทั้งนี้ที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางการรับมือของอาเซียนต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมอบหมายให้คณะทำงานสาขาต่างๆ เร่งดำเนินงานตามแผนการฟื้นฟูอาเซียน และเห็นควรขยายบัญชีสินค้าจำเป็น (essentialgoods) ที่อาเซียนจะไม่กำหนดมาตรการกีดขวางการไหลเวียนของสินค้าในช่วงโควิดเพิ่มเติมจากยา และเวชภัณฑ์ รวมทั้งเร่งรัดให้ประเทศสมาชิกรีบดำเนินการภายในให้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP มีผลใช้บังคับโดยเร็ว ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของภูมิภาคในระยะยาว
นอกจากนี้ ยังได้หารือกำหนดทิศทางการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจของอาเซียนในอนาคต โดยได้ร่วมกันประเมินผลการทำงานตามแผนงานประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2025 (AEC Blueprint 2025) เพื่อนำไปประกอบการจัดทำวิสัยทัศน์อาเซียนฉบับต่อไป รวมทั้งหารือในประเด็นเศรษฐกิจสำคัญที่บรูไนฯ ในฐานะประธานอาเซียนจะเสนอให้ดำเนินการภายในปี 2564 ภายใต้ยุทธศาสตร์ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการฟื้นฟู ด้านการเป็นดิจิทัล และด้านความยั่งยืน โดยเฉพาะประเด็นใหม่ๆ เช่น การจัดทำกรอบการทำงานด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนของอาเซียน ซึ่งไทยได้เสนอ “โมเดลเศรษฐกิจ Bio-Circular-Green (BCG)” ให้เป็นตัวอย่างในการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศและภูมิภาค รวมทั้งการจัดทำยุทธศาสตร์เพื่อรับมือกับการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 หรือ 4IR ซึ่งจะเข้ามาช่วยสนับสนุนการดำเนินการด้านเศรษฐกิจของอาเซียนในช่วงสถานการณ์ปัจจุบันที่โลกกำลังเผชิญ เป็นต้น
นายบุณยฤทธิ์เพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังได้หารือแนวทางการสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจกับประเทศนอกภูมิภาคที่ผ่านหลักเกณฑ์การประเมินของอาเซียน โดยเห็นว่ากลุ่มประเทศคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ หรือ GCC มีศักยภาพที่จะเป็นคู่เจรจา FTA กับอาเซียนในอนาคต โดยอาจเริ่มจากการสร้างความสัมพันธ์ในรูปแบบความร่วมมือไปก่อน โดยทั้งหมดจะนำเสนอต่อที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ในปี 2563 การค้าระหว่างไทยกับอาเซียน มีมูลค่า 94,838.07 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปอาเซียน มูลค่า 55,469.59 ล้านเหรียญสหรัฐ และไทยนำเข้าจากอาเซียน มูลค่า 39,368.47 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีตลาดสำคัญ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี