นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.)เปิดเผย ถึงการดูแลแก้ไขปัญหาลดผลกระทบจากราคาเหล็กมีการปรับตัวสูงขึ้นว่าคน.และกรมการค้าต่างประเทศได้ประชุมหารือร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมและสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย โดยมีสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์เป็นตัวแทนฝั่งผู้ใช้ และมีสมาคมผู้ผลิตเหล็กและสมาคมโลหะไทย รวมทั้งผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ 3 ราย
โดยที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์เหล็กทั้งในประเทศและต่างประเทศ พบว่า ราคาเหล็กในตลาดโลกปรับราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยราคานำเข้าเหล็กในตลาดเอเชียเดือนเมษายน 2564 เทียบกับเมษายน 2563 พบว่า ราคานำเข้าเหล็กแท่งยาว (Billet) ที่เป็นวัตถุดิบเพิ่มขึ้นประมาณ 75% และราคาประเภทอื่นปรับสูงขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน ปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาสูงขึ้นมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมเหมืองแร่เหล็กแหล่งใหญ่ของโลก คือ บราซิล และออสเตรเลีย ไม่สามารถขุดสินแร่เหล็กได้ตามแผน
ประกอบกับจีนมีนโยบายลดกำลังการผลิตโดยปิดโรงงานผลิตเหล็กที่มีกระบวนการผลิตที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยกเลิกมาตรการทางภาษีที่มีอยู่เดิมในการสนับสนุนการส่งออกสินค้าเหล็กบางรายการ เพื่อนำเหล็กที่ผลิตได้ไปใช้ขยายการก่อสร้างในการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจในสหภาพยุโรป จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีเริ่มฟื้นตัว ส่งผลให้ภาคการผลิตในอุตสาหกรรมต่อเนื่องมีความต้องการเพิ่มขึ้น
ขณะที่การผลิตและจำหน่ายเหล็กในประเทศ พบว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมเหล็กมีการผลิตเพียง30-40% ของกำลังการผลิต จึงมั่นใจว่าประเทศไทยจะมีปริมาณเหล็กใช้ได้เพียงพอ ในด้านราคา พบว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการกลุ่มก่อสร้างขนาดใหญ่หรือที่เสนองานกับหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ การกำหนดค่าตัวเลขดัชนีที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของค่างาน (ค่า K) ของงานโครงการภาครัฐที่อาจไม่สอดคล้องกับต้นทุนที่เกิดขึ้นจริง ปัญหาของผู้ประกอบการก่อสร้างรายย่อยส่วนหนึ่งมาจากกรณีผู้ค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาเพื่อให้การแก้ไขปัญหาตรงจุดและไม่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหล็กในประเทศระยะยาว เบื้องต้นได้มีมติร่วมกัน ดังนี้
1.จัด Business Matching ระหว่าง สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ เป็นตัวแทนผู้ใช้ กับ กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นตัวแทนฝั่งผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็ก ซึ่งจะได้ประสานเชื่อมโยงการซื้อขายโดยตรง เพื่อลดการผ่านคนกลางทำให้ต้นทุนลดลง
2.พิจารณาทบทวนค่าตัวเลขดัชนีที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของค่างาน (ค่า K) ของงานโครงการภาครัฐ โดยจะจัดให้มีการหารือร่วมกันระหว่างหน่วยงาน
ภาครัฐกับสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ ทั้งในด้านการสืบราคาจำหน่ายและการกำหนดค่า K ให้สะท้อนกับราคาในตลาด
3.ขอความร่วมมือผู้ผลิตเหล็กตรึงราคาและต้องจำหน่ายในราคาที่สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริงโดยคน.จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
กระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดติดตามดูแลการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กของร้านค้าปลีกให้มีการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายและเข้มงวดไม่ให้ฉวยโอกาสขึ้นราคา (กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคาจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาทและกรณีจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควรจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) หากพบเห็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายผิดกฎหมายแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี