เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.)หรือสภาผู้ส่งออก แถลงข่าวแนวโน้มการส่งออก และการส่งออกเดือนมีนาคมผ่านช่องทาง “Google Hangouts meet”
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธาน สรท.เปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์ในปัจจุบันนี้เศรษฐกิจของไทยมีเครื่องจักรหรือมีกลไกที่สำคัญเพื่อเป็นการขับเคลื่อน คือ ภาคการส่งออก โดยในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2564 ที่ผ่านมา การส่งออกของไทย มีมูลค่า 24,222 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 8.47% การส่งออกในรูปเงินบาทเท่ากับ 719,050 ล้านบาท ขยายตัว 4.05% ในขณะที่การนำเข้า มีมูลค่า 23,511ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 14.12%และการนำเข้าในรูปของเงินบาทมีมูลค่า 708,095 ล้านบาท ขยายตัว 9.52% ส่งผลให้ประเทศไทยเกินดุลการค้า 710 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 10,955 ล้านบาท
ทั้งนี้ สรท. ได้ปรับคาดการณ์การส่งออกไทยในปี 2564 เติบโต 6-7% โดยมีปัจจัยบวกที่สำคัญ ได้แก่ 1.การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง 2.มูลค่าและปริมาณการส่งออกที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการขยายตัวในระดับสูงของสินค้าอุตสาหกรรม 3.ราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ 4.ค่าเงินบาทที่ทรงตัวในกรอบการอ่อนค่าเนื่องด้วยดอลลาร์สหรัฐมีทิศทางแข็งค่าหลังตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1 ปี 2564 ของสหรัฐออกมาดีสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ จากตัวเลขการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ที่เติบโตต่อเนื่อง
ขณะที่ ปัจจัยเสี่ยงได้แก่ 1.ปัญหาตู้สินค้าขาดแคลนและอัตราค่าระวางที่ทรงตัวในระดับสูง 2.การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย 3.สถานการณ์วัตถุดิบขาดแคลน และ 4.สถานการณ์ขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวในกลุ่ม Unskilled labor จากผลกระทบของโควิด-19 เป็นอุปสรรคต่อการเข้า-ออกของแรงงานต่างด้าว ซึ่งการขาดแคลนเริ่มมีความรุนแรงมากขึ้นเนื่องด้วยกิจกรรมการผลิตและการส่งออกหลายๆ อุตสาหกรรมเริ่มฟื้นตัวจากแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า ทำให้บางอุตสาหกรรมจำเป็นต้องปรับลดกำลังการผลิตลง
อย่างไรก็ตาม สรท. มีข้อเสนอแนะที่สำคัญต่อภาครัฐ ได้แก่ 1.เร่งแก้ไขปัญหาตู้สินค้าขาดแคลน โดยภาครัฐจะต้องเร่งแก้ไขปัญหาตู้สินค้าขาดแคลน ส่งเสริมสนับสนุนให้มีการนำเข้าตู้เปล่าเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 2.เร่งแก้ไขปัญหาความแออัดในท่าเรือแหลมฉบัง
3.เร่งจัดหาแรงงานป้อนเข้าสู่ระบบรองรับการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งต้องการแรงงานต่างด้าวไม่ต่ำกว่า 2-3 แสนคน ขอรัฐบาลพิจารณาแนวทางการนำเข้าแรงงานต่างด้าวเพิ่มเติม นอกจากนี้เพิ่มรูปแบบการจ้างงานในลักษณะ Part Time Job ระยะเวลาการจ้างต้องไม่ต่ำกว่า4 ชั่วโมง เพื่อรองรับการเปลี่ยนรูปแบบการจ้างงานของสถานประกอบการจากเต็มเวลาเป็นจ้างแบบ Part-time ลดค่าใช้จ่าย โดยนายจ้างสามารถกำหนดเวลาทำงานได้เป็นบางช่วงเวลาที่มีคำสั่งซื้อที่มากขึ้นและเป็นการช่วยนายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำเต็มตามกฎหมายการจ้างงานชั่วคราว อีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้คนไทยมีงานทำในทุกพื้นที่ สอดคล้องกับรูปแบบการทำงานของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนไปเน้นการรับงานอิสระมากขึ้น ซึ่งกรมการจัดหางานเคยได้ดำเนินการ ตั้งศูนย์บริหารจัดการงาน Part Time เมื่อกลางปี 2563 ที่ผ่านมา และ 4.รักษาเสถียรภาพของค่าเงินให้อยู่ระหว่าง 31-32 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี