นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่าผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนเมษายน 2564 อยู่ที่ระดับ 84.3 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 87.3 ซึ่งเป็นการลดลงต่ำสุดในรอบ 8 เดือน นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่สาม ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและขยายวงกว้างไปทั่วประเทศ ทำให้ภาครัฐยกระดับมาตรการควบคุมโควิด-19 ให้เข้มงวดมากขึ้น
ทั้งนี้ แม้ภาครัฐจะไม่ได้ประกาศมาตรการล็อกดาวน์หรือเคอร์ฟิวเหมือนกับการระบาดในระลอกแรก แต่วิกฤติโควิด-19 ระลอกนี้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงทั้งการค้าการลงทุน การเดินทางท่องเที่ยว ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ขณะที่มาตรการให้ทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งเพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประกอบกับเดือนเมษายนยังมีวันทำงานน้อยเนื่องจากมีวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำให้ภาคการผลิตส่วนใหญ่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า
“ยอมรับว่าผลกระทบจากโควิดระลอกนี้รุนแรงมากจริงๆ มีผู้ติดเชื้อเกินวันละ1,000 คน และมีผู้เสียชีวิตสองหลักทุกวันทำให้ดัชนีฯ โดยรวมดิ่งหัวลงทั้งหมด ที่สำคัญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่มีความชัดเจนในการควบคุมการระบาดของเชื้อ ซึ่งหากการฉีดวัคซีนล่าช้าไม่จบภายในไตรมาส 3 นี้ มองว่าเงินกู้ที่เหลือจากพ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ของรัฐบาลที่ใช้สำหรับเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนไม่น่าเพียงพอกับสถานการณ์ จึงขอยืนยันแนวคิดเดิมที่เคยแสดงความเห็นไว้ว่ารัฐบาลต้องกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทหรือกู้เพิ่มอีก 1 ล้านล้านบาท เพื่อให้มาตรการเยียวยาครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มและผู้ประกอบการมีส่วนช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ” นายสุพันธุ์ กล่าว
ส่วนมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ขณะนี้เกิดปัญหาผู้เข้าโครงการขอรับสินเชื่อยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากธนาคารพาณิชย์อย่างทันท่วงทีเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนได้หารือถึงแนวทางแก้ไขอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมนำข้อเสนอเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)ในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับแผนการกระจายวัคซีนและการประชาสัมพันธ์ ให้กับประชาชนเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีน
สำหรับดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 91.8 จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 94.0 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ระลอกที่สาม ที่อาจยืดเยื้อและต้องใช้ระยะเวลานานในการควบคุม อีกทั้งการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนยังมีความล่าช้าส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูงขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศยังไม่คลี่คลาย รวมทั้งสถานการณ์การเมืองของประเทศเพื่อนบ้านยังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อภาคการส่งออกของไทย
นายสุพันธุ์กล่าวว่า ภาคเอกชนต้องการให้ภาครัฐเร่งควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่สามให้ได้โดยเร็ว โดยใช้มาตรการล็อกดาวน์เฉพาะพื้นที่ที่มีความเสี่ยงและมีการแพร่ระบาดสูง พร้อมเร่งจัดซื้อและกระจายวัคซีน COVID-19 ให้กับประชาชนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีน รวมทั้งออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระลอกที่สามอย่างเร่งด่วน ให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มและผู้ประกอบการเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ เร่งแก้ไขปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์เพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออก
จากการสำรวจของ สอท.พบว่าเฉพาะสมาชิก สอท. ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2564 มีความต้องการแจ้งเข้ามา 446,263 คนคิดเป็นจำนวน 772 บริษัท แต่หากรวมที่ไม่ใช่สมาชิก สอท. และรวมของการนิคมอุตสาหกรรมจะอยู่ที่ประมาณ 1,036,847 คน ซึ่งภาคเอกชนส่วนใหญ่พร้อมจ่ายเงินเอง โดยอยากได้วัคซีนมาฉีดภายในเดือนมิถุนายนนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี