** ช่วงนี้เริ่มได้คำว่า “เงินเฟ้อ” และความกังวลจากผลกระทบของเรื่องเงินเฟ้อ...จากนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์บ่อยขึ้น...และก็มีนักเศรษฐศาสตร์จากสำนักวิชาการชั้นนำบางแห่งมองลึกไปกว่านั้น...!! ไม่รู้ว่าจะคุ้นกับคำคำนี้ไหม...Stagflation ...ซึ่งเป็นการรวบคำระหว่างคำว่าStagnation (ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว) กับ Inflation (เงินเฟ้อ)....แปลความหมายได้ว่า “ภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวแต่เงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้น”...และนี่จะใช้เพื่อพูดถึงสภาพการณ์ เช่นว่า...เศรษฐกิจที่กำลังอยู่ในภาวะชะลอตัว อาจเกิดจากอัตราการว่างงานที่สูงขึ้น แต่ยังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อสูงในเวลาเดียวกัน เท่ากับว่าประชาชนมีรายได้ลดลงแต่ยังต้อง เผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นด้วย (สำหรับประเทศไทย ขณะนี้น่าจะบวกคำว่าภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น) เข้าไปด้วย...
เศรษฐกิจไทยจะตกอยู่ในภาวะ Stagflation หรือยัง ??? ต้องลองพิจารณาปัจจัยแวดล้อมตอนนี้ดูแล้วกัน...ณ เวลานี้คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า เศรษฐกิจไทยยังอ่อนแอและมีความเสี่ยงสูงที่จะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยซ้ำซ้อน จากพิษโควิด-19 ระลอก 3 แม้ว่าภาครัฐจะไม่ใช้มาตรการดูแลที่เข้มงวดขั้นสุดเหมือนการระบาดระลอกแรก แต่มาตรการเหล่านั้นส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเลยจากผลของการระบาดรอบก่อน แต่แม้ว่าเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอแต่เริ่มเห็นสัญญาณของ “เงินเฟ้อ” โดยตัวเลขในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เงินเฟ้อทั่วไปขยายตัวถึง 3.41% เป็นระดับสูงสุดในรอบ 100 เดือน (8 ปี 4 เดือน) ซึ่งการขยับขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้อดังกล่าว สาเหตุหลักๆ มาจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น (+36.38%) และในอนาคตมีโอกาสจะเห็นตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งเป็นผลมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น เช่น เหล็ก และทองแดง ปุ๋ย ฯลฯ ที่ทะยานขึ้นต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้
พิจารณาจากตรงนี้ถ้าตัวเลขเงินเฟ้อของไทยในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า จะขยับตัวสูงขึ้น ก็จะเป็นผลมาจากราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งเป็นลักษณะของ Cost Push คือ ต้นทุนผลักดันให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ไม่ได้เกิดจาก Demand Pull หรือความต้องการซื้อของคนที่ดึงให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น....ที่สำคัญกลุ่มพลังงานสินค้าโภคภัณฑ์ สำคัญๆ ประเทศไทยต้องนำเข้าทั้งนั้น และนอกจากปัจจัยเรื่องดีมานด์-ซัพพลาย ในตลาดโลกที่ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ขยับขึ้น ค่าเงินบาทก็มีสำคัญด้วยเช่นกัน หากค่าเงินบาทยังอ่อนค่าลงเรื่อยๆ ต่อไป ก็จะเป็นตัวเร่งหนุนในราคาสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญๆ เหล่านี้เพิ่มขึ้นอีก
ด้วยบริบทของไทย เป็นเรื่องยากมากที่จะผลักภาระไปยังผู้บริโภคได้ดังนั้นภาคอุตสาหกรรมหลายๆ กลุ่มของไทยจึงน่าเป็นห่วง แน่นอนว่าเมื่อภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจที่มีการจ้างสูง หากมีปัญหาสุดท้ายก็จะส่งแรงกระแทกไปยังภาวะการจ้างงานอยู่ดี และก็แน่นอนว่าต้องส่งผลกระทบต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจ
เศรษฐศาสตร์วันหยุด...ไม่กล้าฟันธงว่า เศรษฐกิจไทยมีโอกาสจะไปถึงจุดที่เรียกว่า... Stagflation หรือไม่....แต่ที่กล้าฟันธงคือว่าสิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือ....ต้องเร่งทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลกให้ได้ และหนึ่งหนทางสำคัญคือ การเร่งเปิดประเทศให้เร็วที่สุด และเปิดท่ามกลางความเชื่อมั่นของต่างชาติที่มีต่อการแก้ไขปัญหาการระบาดของโควิด-19 ของไทยด้วย
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี