‘จุรินทร์’มั่นใจงบ’65 ผ่านสภาฉลุย
ฝ่ายค้านไม่รับเรื่องปกติ
พรรคร่วมฯผนึกหนุนรบ.ทำงานต่อ
“จุรินทร์” มั่นใจร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี’65 ผ่านสภาได้ ชี้ “ฝ่ายค้าน” ไม่รับร่างฯ เป็นเรื่องปกติ ยันปชป.พร้อมโหวตหนุน ย้ำพรรคร่วมฯ มีหน้าที่ชี้แจง-ให้การสนับสนุน ช่วยพยุงเสถียรภาพรัฐบาลเดินหน้าทำงานต่อ แต่ถ้างบฯไม่ผ่านรัฐบาลต้องลาออก-ยุบสภา ด้าน “แรมโบ้” ยันผลงานรัฐบาล หลังเลือกตั้ง 2 ปี มีมากมาย ขอเชื่อมั่น “นายกฯ-รัฐบาล” ทำงานเพื่อประชาชน-บ้านเมือง อย่างสุดความสามารถ ไม่ทอดทิ้งประชาชน
เมื่อวันที่ 21พฤษภาคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านประกาศไม่รับร่าง พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี65 จะมีผลต่อการบริหารงานของรัฐบาลหรือไม่ หากร่างพรบ.ฯถูกคว่ำในวาระแรก ว่า ตนยังคิดว่าร่างพรบ.งบฯ น่าจะผ่านได้ ส่วนการที่ฝ่ายค้านจะรับร่าง หรือไม่รับร่างอยู่ที่ฝ่ายค้านจะเป็นผู้พิจารณา อดีตที่ผ่านมามีทั้ง 3กรณีที่ฝ่ายค้าน รับร่าง งดออกเสียงและไม่รับร่าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ปรากฎการณ์ใหม่ เพราะฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ปกติ ดังนั้นรัฐบาลมีหน้าที่ที่จะต้องชี้แจงทำความเข้าใจว่า สาเหตุ หรือเหตุผลที่ทำร่างพรบ.งบฯว่าต้องใช้งบ ทั้งงบลงทุนและงบประจำ เป็นเพราะเหตุใด ส่วน สส.ที่ฝ่ายค้านและรัฐบาลมีหน้าที่อภิปรายแสดงความคิดเห็นก่อนที่จะลงมติ หลักทั่วไปพรรคร่วมรัฐบาลมีหน้าที่ต้องให้การสนับสนุน ถ้าสมมติร่างพรบ.งบฯ เกิดไม่ผ่านที่ประชุมสภาฯตามหลักสากลประชาธิปไตย รัฐสภาทั่วไป รัฐบาลก็ต้องลาออก หรือไม่ต้องยุบสภาเพราะฉะนั้นไม่ใช่แค่ว่าจะลงมติอะไรก็ได้ แต่มีผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลด้วย
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่า การจัดงบฯไม่ตอบโจทย์แก้ปัญหาโควิด นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่ฝ่ายค้านต้องท้วงติงว่า มีอะไรบ้าง รัฐบาลมีหน้าที่ต้องรับฟัง อะไรมีเหตุผล ก็นำไปปรับปรุงแก้ไข อะไรที่คิดว่าไม่มีเหตุผลเพียงพอรัฐบาล ก็ต้องยืนในจุดของรัฐบาล โดยการอธิบายให้เข้าใจ และพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคร่วมรัฐบาล รัฐมนตรีของพรรค 7คนก็นั่งอยู่ในที่ประชุม ครม.ซึ่งให้ความเห็นชอบร่าง พรบ.งบฯฉบับนี้ออกมา ซึ่งที่ประชุม สส.ของพรรค โดยหลักทั่วไปต้องให้การสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบฯ ซึ่ง นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธานสส.พรรค จะนัดประชุม สส.พรรคในวันที่ 26พ.ค.เวลา 13.00น.
นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการฉีดวัคซีนแบบวอล์คอินที่ทำให้ สส.ของพรรคร่วมรัฐบาลขัดแย้งกันเองว่า ส่วนตัวตนเห็นใจและเข้าใจพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่ถูกนายกรัฐมนตรีเบรค โดยการฉีดวัคซีนแบบวอล์คอินที่พรรค ภท.เสนอ เมื่อวิเคราะห์ปัญหานี้อย่างละเอียดแล้วตนคิดว่า วัคซีนเพิ่งเข้ามาเพียงนิดเดียวทำให้ประเทศจำเป็นต้องฉีดวัคซีนตามความจำเป็นและตามแผนยุทธศาสตร์ก่อน จะทำสะเปะสะปะไม่ได้ ในสงครามชีวภาพกับโควิด ขณะนี้ไทยเรากำลังเป็นฝ่ายตั้งรับ วัคซีนเป็นอาวุธสำคัญที่เราจะใช้รบกับเชื้อโควิด แต่ขณะนี้เรามีวัคซีนน้อย เปรียบเสมือนเรามีกระสุนน้อย การยิงกระสุนทุกนัดของเราตรงเข้าเป้า จึงจะชนะในสงครามชีวภาพนี้ได้
นพ.ระวี กล่าวต่อว่า ขณะนี้ต้องฉีดวัคซีนให้คนไทยให้ตรงเป้าตามลำดับความสำคัญ คือบุคลากรทางการแพทย์, กลุ่มที่มีโรคประจำตัว,ผู้สูงอายุมากกว่า 60ปีและกลุ่มคนไทยตามแผนยุทธศาสตร์ที่จะส่งผลให้เปิดประเทศและระบบเศรษฐกิจขับเคลื่อนได้เร็ว รวมถึงกลุ่มที่จะแพร่กระจายโรคได้ง่าย เช่น ภาคการท่องเที่ยว,ภาคโรงงานอุตสาหกรรม,สำนักงาน บริษัท ,ห้างสรรพสินค้า,สถานบริการต่าง ๆ ,ขนส่งสาธารณะ,พื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญฯลฯ รัฐบาลต้องทุ่มวัคซีนภายในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม สู่พื้นที่ กทม.อย่างน้อย 5 ล้านคน เพื่อยุติการการระบาดใน กทม.และต้องทุ่มวัคซีนสู่ภาคแรงงานในโรงงาน สำนักงาน บริษัทต่าง ๆ เพื่อป้องกันการระบาดกลุ่มใหญ่ หลังเดือนสิงหาคม ถ้าเราฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ครบตามเป้าหมายแล้ว การฉีดแบบวอล์คอินคงจะเป็นไปได้ จึงขอเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลยุติการตอบโต้กันและหันมาร่วมกันสู้กับวิกฤตโควิดจะดีกว่า เชื่อว่าการหยุดwalk inรัฐบาลมาถูกทางแล้ว
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการทำงานของนายกฯ และรัฐบาล ตั้งแต่เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งจะเห็นได้ว่า มีผลงานหลายอย่างและปฏิรูปประเทศไปแล้วในหลายด้านทั้งการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐาน มอเตอร์เวย์ ทางด่วน วงแหวน อุโมงค์ การขนส่งทางราง ที่มีสถานีกลางบางซื่อ การเชื่อมโยงรถ-เรือ-ราง เร่งสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ และเรือ Smart ferry เจ้าพระยา เรือไฟฟ้าคลองผดุงฯ รวมถึงการปฏิรูปคุณภาพชีวิตชาวชุมชน การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ แนวทางแก้ปัญหาเมืองหลวง แก้ปัญหาผู้มีรายได้น้อย ปฏิรูปสู่ยุคดิจิทัล ปฏิรูปกฎหมายปลดล็อคประเด็นสังคม และระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า รวมถึงการปฏิรูประบบสวัสดิการแห่งรัฐ การศึกษา ระบบบำนาญเพื่อทุกคน ปฏิรูปภาคการเกษตร จัดสรรที่ดินทำกินเกษตรกร และปฏิรูปประเทศด้วย “นวัตกรรม” โดยผลักดัน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย สร้าง EEC ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งและโทรคมนาคม เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้ปฏิรูปการเยียวยา “ยามวิกฤต” ในช่วงที่ประเทศเกิดสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเรื่องนี้นายกฯและรัฐบาลให้ความสำคัญสุขภาพประชาชน รวมถึงการบรรเทาความเดือดร้อนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด มีการออกมาตรการต่างๆเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ควบคู่ไปกับการหามาตรการมาเยียวยาด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันได้เร่งจัดหาวัคซีน เพื่อนำมาฉีดให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุดและให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนทุกคนโดยประกาศ การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติด้วย ตนอยากให้ประชาชนเชื่อมั่นในตัวนายกฯ ประยุทธ์ ว่าตลอดการทำงานของนายกฯจะทำเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่และสุดความสามารถ ไม่ทอดทิ้งประชาชนอย่างแน่นอน
“ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าช่วง2ปีหลังการเลือกตั้งที่ผ่านมา รัฐบาลมีผลงานเป็นที่ประจักษ์และมากกว่ารัฐบาลในอดีตมากมาย ดังนั้นฝ่ายค้านหรือฝ่ายตรงข้ามที่พูดจาใส่ความนายกฯและรัฐบาลว่าไม่มีผลงานใดๆ ก็ขอให้ประชาชน อย่าได้เชื่อข้อมูล เพราะฝ่ายค้านต้องการโจมตีรัฐบาลเพื่อกลับมามีอำนาจเป็นรัฐบาลเสียเองโดยไม่เอาข้อมูลความจริงมาพูดสื่อสารให้กับพี่น้องประชาชน เพราะเป็นฝ่ายค้าน ก็ต้องทำหน้าที่ค้าน แบบไร้เหตุและผลอยู่แล้ว จึงเชื่อถือข้อมูลจากฝ่ายค้านบางคนไม่ได้เลย’นายเสกสกล กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี