เกรท วอลล์ มอเตอร์ นำทัพสื่อมวลชนร่วมทดสอบ All New HAVAL H6 Hybrid SUV ภายใต้แนวคิด “DRIVE TO A NEW xEV WORLD” ระหว่างวันที่ 14 - 18 มิถุนายน 2564 ภายใต้รูปแบบ New Normal เพื่อทดสอบสมรรถนะรถยนต์รุ่น Ultra ซึ่งเป็นรุ่นที่มีสเปคสูงสุดของ All New HAVAL H6 Hybrid SUV
โดยได้รับเกียรติจาก มร. สตีเฟ่น หวัง รองประธานฝ่ายขายและการตลาด นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ มร.เบ็น หวัง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด และนายจิรศักดิ์ ชื่นอารมย์ รองผู้อำนวยฝ่ายการฝ่ายการตลาด พร้อมด้วยทีมผู้บริหารจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย มาร่วมเปิดงาน
มร.เบ็น หวัง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย กล่าวว่า “การจัดกิจกรรมทดสอบสมรรถนะของ All New HAVAL H6 Hybrid SUV เพื่อให้สื่อมวลชนได้ทดลองสมรรถนะ และใช้งานเทคโนโลยีต่างๆ ที่มาพร้อมกับตัวรถได้อย่างเต็มที่ และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กิจกรรมในครั้งนี้ จะช่วยเติมเต็มความสุข และสร้างประสบการณ์การขับขี่อันชาญฉลาด ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตลอดการเดินทาง ด้วยการผสานดีไซน์ที่ลงตัวกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบาย และลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่จากระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่ต่างๆ ของเรา เรามั่นใจว่า จะสามารถทำให้ทุกคนมั่นใจและอุ่นใจไปกับการขับขี่ในทุกๆ เส้นทาง และเรายังคงยืนยันความมุ่งมั่นของเรา ที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ และบริการที่ดีที่สุดจากเราให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยต่อไป”
All New HAVAL H6 Hybrid SUV นับเป็นรถเอสยูวีที่มีขนาดใหญ่ เมื่อเทียบรถในคลาสเดียวกัน ด้วยมิติของตัวรถขนาดกว้างและยาว 1,886 x 4,653 มม. ความสูง 1,724 มม. มีระยะฐานล้อ 2.738 มม. และขนาดล้อ 19 นิ้ว โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่สร้างสุนทรียภาพแห่งอนาคตของโลกตะวันออก โดยใช้เส้นโค้งและลายเส้นที่เรียบง่าย ประณีต ให้ความรู้สึกพรีเมียม ล้ำยุค การตกแต่งภายในให้อารมณ์สปอร์ต ล้ำสมัยด้วยหน้าจอทัชสกรีนอัจฉริยะ Intelligent Multimedia Touchscreen ขนาด 12 นิ้ว และมาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงการขับขี่ Multi Information Display ขนาด 10 นิ้ว แสดงผลแบบ HUD พร้อมข้อมูลการขับขี่ที่ครบครัน พวงมาลัยไฟฟ้า Multi-Function ที่มาพร้อม Panoramic Sunroof ขนาดใหญ่
สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการทดสอบครั้งแรกอย่างเป็นทางการในประเทศไทย หลังจากการแนะนำตัวในงานมอเตอร์โชว์ 2021 ที่ผ่านมา โดยใช้เส้นทาง กรุงเทพฯ – มุ่งหน้าสู่ สนามบินเล็ก อ่างเก็บน้ำหนองค้อ จ.ชลบุรี ซึ่งต้องฝ่าการจรจรที่คับคั่งในเมือง เป็นอย่างมาก บางช่วงระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะก็จะมีการเตือนตลอดเวลา อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อใช้ความเร็วต่ำ (TJA) ที่ทำงานตามความเร็วที่ผู้ขับขี่ตั้งเอาไว้ และจะตรวจจับรถคันหน้าเพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัย พร้อมระบบช่วยหยุดรถยนต์และออกตัว (stop-and-go) เพิ่มความสะดวกสบายในการขับรถสำหรับย่านที่มีการจราจรพลุกพล่าน
ในส่วนของระบบการช่วยเหลือการขับขี่ ก็มีให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) รวมถึงระบบระบบเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ต่างๆ ภายในรถ และทันทีที่หลุดออกมานอกเมืองสามารถทำความเร็วได้ ก็กดคันเร่งกันเต็มเหนี่ยว ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5 Turbo แรงจัดประหยัดจริง พละกำลังจากเครื่องยนต์สูงสุด 110 kW และมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 130 kW โดยมีกำลังรวมทั้งระบบสูงสุด 179 kW (243 PS) พร้อมให้แรงบิดจากเครื่องยนต์สูงสุด 230 นิวตันเมตร และแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 300 นิวตันเมตร โดยให้แรงบิดทั้งระบบรวมสูงสุด 530 นิวตันเมตร
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับแพลตฟอร์ม GWM LEMON ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโมดูล่าร์อัจฉริยะ ที่ผ่านการทดสอบบนถนนมากกว่า 6 ล้านกิโลเมตร และมีการทดสอบในสภาวะแวดล้อมที่สุดขั้วถึง 76 แบบ ด้วยน้ำหนักที่เบากว่า จะทำให้รู้สึกถึงประสบการณ์การขับขี่ที่น่าพึงพอใจ และปลอดภัยยิ่งขึ้น รวมถึงการใช้เพลาขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์ แบบ Multi-mode DHT รองรับการขับขี่ตามความต้องการ ช่วยประหยัดน้ำมัน คลายความกังวล ด้วยระบบเกียร์ไฮบริดรุ่นแรก ที่มี 2 ระบบเกียร์ (1 ระบบเกียร์ที่ด้านเครื่องยนต์และอีก 1 ระบบเกียร์ที่ด้านมอเตอร์ขับเคลื่อน) เพื่อรองรับการขับเคลื่อนที่หลากหลาย ซึ่งระบบส่งกำลังไฮบริดแบบหลายโหมด ประกอบไปด้วย โหมดการขับขี่ 4 แบบ ได้แก่ โหมดมาตรฐาน/ โหมดสปอร์ต/ โหมดประหยัด/ โหมดสภาพถนนลื่น เพื่อตอบสนองการขับขี่ในสภาพถนนที่แตกต่างกัน
และทันทีที่มาถึงสนามบินเล็ก อ่างเก็บน้ำหนองค้อ จ.ชลบุรี คณะสื่อมวลชนได้ทดสอบเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะต่างๆ ภายในสนามทดสอบแบบ ด้วยสถานีจำลอง TEST DRIVE TRACK ทั้ง 5 สถานี ได้แก่
1. สถานีทดสอบอัตราการเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และการเข้าโค้งอัจฉริยะ (Torque (0-100 km/hr) and Intelligent Cornering) การพิสูจน์สมรรถนะและความแรงของรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 243 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 530 นิวตัน-เมตร และทดสอบการเข้าโค้งของรถเมื่อขับผ่านทางโค้ง โดยกล้องจะทำการตรวจสอบโค้งถนน เพื่อให้ความเร็วถูกปรับอัตโนมัติให้เหมาะสมสำหรับการเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย เมื่อผ่านโค้งไปแล้ว รถจะกลับเข้าสู่ความเร็วเดิมที่ตั้งไว้
2. สถานีทดสอบระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA : Auto Reversing Assistance) ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของการทดสอบเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของ HAVAL H6 Hybrid SUV โดยรถยนต์จะสามารถจดจำเส้นทางที่ขับผ่านด้วยความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้สูงสุด 50 เมตร และสามารถถอยหลังกลับอัตโนมัติตามเส้นทางได้อย่างราบรื่น
3. สถานีทดสอบระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IAP Integration Auto Parking) ด้วยกล้อง 360 องศา และเซนเซอร์อัลตร้าโซนิค ช่วยให้ All New HAVAL H6 Hybrid SUV สามารถค้นหาที่จอดรถ คำนวณพื้นที่สำหรับจอดรถได้อย่างแม่นยำ โดยสามารถช่วยจอดได้ทั้งในรูปแบบการถอยเข้าช่องจอด การจอดขนานเส้นทางเดินรถ และการจอดตามแนวเฉียง
4.สถานีทดสอบระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง(RCTA+RCTB Rear Cross Traffic Alert and Rear Cross Traffic Breaking) ระบบจะช่วยทำการแจ้งเตือนในขณะที่ถอยรถ โดยจะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับรถยนต์ที่เข้าใกล้บริเวณด้านหลังรถ และด้านซ้าย-ขวา และเมื่อตรวจพบความผิดปรกติระบบจะทำการส่งสัญญาณเตือนและเบรคให้อัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการชน
5. สถานีทดสอบระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC : Adaptive Cruise Control) ทดสอบการใช้งานกล้องติดรถยนต์ ADAS ที่ประสานกับชิปควบคุมการขับเคลื่อนอัตโนมัติ Q4 ของโมบายอาย (EYEQ4) ช่วยควบคุมในช่วงความเร็วเต็มพิกัดตามที่กำหนดไว้ รวมถึงการหยุดและรีสตาร์ทกลับไปยังความเร็วที่ตั้งไว้ก่อนหน้า
นอกจากนี้ All New HAVAL H6 Hybrid SUV ยังมาพร้อมกับ LIFE+ (LIFE PLUS) ระบบอัจฉริยะที่ตอบสนองความต้องการในทุกเส้นทางการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น
L: การขับขี่อัตโนมัติระดับ L2
I: ระบบอัจฉริยะ Intelligence V3.5 รองรับคำสั่งงานด้วยเสียง
F: FOTA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถอัพเกรดซอฟต์แวร์ผ่านทคโนโลยีการอัปเกรดระยะไกล
E: ชิปควบคุมการขับเคลื่อนอัตโนมัติ Q4 ของโมบายอาย (EYEQ4) และ + (Plus ): ที่จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่จะช่วยอำนวยความสะดวก พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกและปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่อย่างเต็มที่
สำหรับราคาจะประกาศ อย่างเป็นทางการวันที่ 28 มิถุนายนนี้ ซึ่งจะมาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ (Factory Warranty & Roadside Assist) ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร และการรับประกันแบตเตอรี่แบบไม่จำกัดระยะทางนานถึง 8 ปีเต็ม
ทั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ “ULTRA DEAL Campaign” สำหรับลูกค้ากลุ่มแรก ในการจองสิทธิ์ลงทะเบียนเพื่อซื้อ All New HAVAL H6 Hybrid SUV โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษ ก่อนการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ผ่านช่องทาง GWM Application และเว็บไซต์ WWW.GWM.CO.TH ในระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน 2564 - 28 มิถุนายน 2564 รับข้อเสนอแพ็กเกจ 5 Years GWM ULTRA INCLUSIVE SERVICE ดอกเบี้ย 0% นาน 48 เดือน พร้อมประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 และบริการส่งมอบรถยนต์ถึงหน้าบ้าน รวมถึงเอกสิทธิ์เหนือระดับอื่นๆ อีกมากมาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี