นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14-15 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ตนได้รับมอบหมายจากนางอรมนทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้เข้าร่วมในการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน กับจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ผ่านระบบการประชุมทางไกล เพื่อติดตามความคืบหน้าการยกระดับการเปิดเสรีทางการค้าระหว่างกันให้ทันสมัย ทั้งในเรื่องการเปิดตลาดการค้า การค้าบริการ และการลงทุน รวมถึงการเพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ หลังจากที่ความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับคู่เจรจาแต่ละประเทศ ได้มีผลบังคับใช้มาระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นจึงต้องมีการปรับปรุงเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์การค้าในปัจจุบัน
โดยในการหารือกับทางจีนนั้น ได้มีการติดตามการยกระดับการเปิดเสรีทางการค้าระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น ภายใต้พิธีสารเพื่อแก้ไขกรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และความตกลงการค้าเสรีระหว่างอาเซียนกับจีน (ACFTA Upgrading Protocol) ที่จะมีการปรับปรุงความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน ให้มีความทันสมัย รวมทั้งการค้าสินค้าบริการ ลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องการเปิดเสรีเพิ่มเติมในกลุ่มสินค้าอ่อนไหว ที่จะต้องเป็นประโยชน์ต่อการค้าทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งทางอาเซียนและจีนได้ตั้งเป้าหมายที่จะได้ข้อสรุปถึงแนวทางการดำเนินการที่ทั้ง 2 เห็นชอบร่วมกัน ก่อนที่จะการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-จีน ครั้งที่ 20 ที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนกันยายน 2564 ที่จะถึงนี้
นอกจากนี้ อาเซียนและจีนยังได้มีการติดตามความร่วมมือในด้านต่างๆ เช่น ความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ที่จีนสนับสนุนเงินกองทุน 100 ล้านหยวน ในการดำเนินโครงการต่างๆ ภายใต้ FTA อาเซียน-จีน การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน (China-ASEAN Expo) ครั้งที่ 18 ระหว่างวันที่ 10-13 กันยายน 2564 ที่หนานหนิง และงานมหกรรมแสดงสินค้านำเข้านานาชาติจีน (CIIE) ระหว่างวันที่ 5-10 พฤศจิกายน 2564 ที่เซี่ยงไฮ้
นายดวงอาทิตย์กล่าวว่า ส่วนการหารือกับญี่ปุ่น ได้ติดตามความคืบหน้าการบังคับใช้พิธีสารฉบับที่ 1 เพื่อแก้ไขความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ญี่ปุ่น (AJCEP) โดยอินโดนีเซียจะให้สัตยาบันภายในเดือนมิถุนายน 2564 ทำให้พิธีสารมีผลบังคับใช้ครบทั้ง 11 ประเทศ ในเดือนกันยายน 2564 ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการค้าบริการ การเคลื่อนย้ายบุคคลธรรมดา และการลงทุน เพราะมีการคุ้มครองการลงทุนที่ชัดเจน เป็นการเปิดเสรีเพิ่มเติมจากการเปิดตลาดการค้าสินค้า และจากนั้นจะมีการหารือเพื่อจัดทำข้อสงวนการเปิดเสรีการลงทุนต่อไป
ในขณะเดียวกันอาเซียนและญี่ปุ่น ยังได้มีการหารือเพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยได้จัดทำข้อริเริ่มการพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Growth) เพื่อหาแนวทางและแผนการยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยจะเร่งหาความชัดเจน ก่อนที่จะจัดให้มีการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของอาเซียน-ญี่ปุ่น ในเรื่องนี้
ส่วนการหารือกับเกาหลีใต้ ได้ติดตามการเจรจาเปิดตลาดสินค้าอ่อนไหวเพิ่มเติม การยกระดับด้านการค้าบริการและ
การลงทุนภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลีใต้ (AKFTA) และติดตามความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น การดำเนินงานของสภาธุรกิจอาเซียน-เกาหลีใต้ (AKBC), การช่วยเหลือของเกาหลีใต้ในการพัฒนาเทคโนโลยี, การจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมอุตสาหกรรมอาเซียน-เกาหลีใต้ (AKIIC) ที่คาดว่าจะมีการลงนามใน MOU เดือนกันยายน 2564, การจัดตั้งศูนย์วิจัยมาตรฐานอาเซียน-เกาหลีใต้ (AKSRC) ในอาเซียน และการส่งเสริมการใช้ประโยชน์นวัตกรรมเชิงพาณิชย์ เพื่อสอดรับกับการปฏิบัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (4IRs)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี