นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด สมอ. (คณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) ) เมื่อเร็วๆ นี้มีมติให้คณะกรรมการวิชาการรายสาขา (กว.) เกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นผู้จัดทำมาตรฐานสุรา ทั้งสุรากลั่น และสุราแช่ ทบทวนเกณฑ์ด้านความปลอดภัยที่กำหนดในมาตรฐานฉบับแก้ไขใหม่ที่เพิ่มขึ้นกว่ามาตรฐานเดิม
โดยมาตรฐานฉบับแก้ไขใหม่ เช่น สุรากลั่น กำหนดแอลดีไฮด์ จากเดิม ไม่เกิน 160 มิลลิกรัมต่อลิตร เพิ่มเป็น ไม่เกิน 220 มิลลิกรัมต่อลิตรในกรณีสุรากลั่นที่มีแรงแอลกอฮอล์เกิน 40 ดีกรีและเมทิลแอลกอฮอล์ จากเดิม ไม่เกิน 420 มิลลิกรัมต่อลิตร เพิ่มเป็น ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อลิตร สำหรับสุราแช่ ได้กำหนดซัลเฟอร์ไดออกไซด์ จากเดิมไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อลิตร เป็น ไม่เกิน 400 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งบอร์ด สมอ. ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขข้อกำหนดเกณฑ์ด้านความปลอดภัยดังกล่าว
“บอร์ด สมอ. ไม่เห็นด้วยเนื่องจากพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยที่มักจะดื่มสุราเป็นประจำ เป็นปริมาณมาก และต่อเนื่อง หากได้รับปริมาณเมทิลแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายมากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ประกอบกับข้อมูลทางการแพทย์พบว่า ผู้บริโภคที่ได้รับปริมาณเมทิลแอลกอฮอล์ หรือเมทานอลเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมากเกินไป อาจมีผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง มีอาการตาพร่ามัว แพ้แสง ร่วมกับอาการอื่นๆ ด้วย เช่น ปวดเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย สับสน มึนงง ในบางรายอาจมีอาการชักหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะร่วมด้วย บอร์ด สมอ. จึงมีมติให้ กว. นำกลับไปทบทวนก่อนนำเข้าในการประชุมครั้งต่อไป”นายวันชัยกล่าว
ทั้งนี้ มาตรฐานสุรา ได้ประกาศใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2516 ต่อมาในปี 2544 ได้มีการทบทวนและยกเลิกมาตรฐานดังกล่าว และประกาศกำหนดเป็นมาตรฐานเรื่องใหม่ 3 เรื่อง คือ สุรากลั่น มอก.2088-2544 ไวน์ มอก.2089-2544 และเบียร์ มอก.2090-2544 ซึ่งในปีนี้ ได้มีการทบทวนมาตรฐานทั้ง 3 เรื่อง เพื่อให้มาตรฐานมีความทันสมัย สอดคล้องกับเทคโนโลยีการผลิตในปัจจุบัน ตลอดจนส่งเสริมผู้ประกอบการในประเทศให้ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัยต่อการบริโภค และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางการค้าให้ผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้นด้วย โดยสาระสำคัญของการแก้ไขมาตรฐาน นอกจากจะทบทวนเกณฑ์ด้านความปลอดภัยข้างต้นแล้ว ยังได้แก้ไขชื่อมาตรฐานจาก ไวน์ เป็น สุราแช่ เพื่อให้สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์อีกด้วย
นอกจากนี้ การประชุมบอร์ด สมอ.ครั้งนี้ ยังได้เห็นชอบมาตรฐานอื่นๆ รวม 13 มาตรฐาน อาทิ มาตรฐานหน้ากากผ้า เบียร์ เส้นใยกัญชงท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วนท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ รถแทรกเตอร์ล้อยางเพื่อการเกษตรและอุปกรณ์เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและภาชนะรองรับอาหารที่ทำจากเหล็กกล้า อีกด้วย รวมทั้งเห็นชอบให้ สมอ. ดำเนินการกำหนดให้ท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ เป็นสินค้าควบคุมต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
อีกทั้งยังได้สั่งให้ทำลายสินค้าไม่ได้มาตรฐานที่ สมอ. ยึดอายัดและดำเนินคดีถึงที่สุดแล้วจำนวน 8 ราย มูลค่ารวมกว่า 19 ล้านบาท อาทิ เหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็น ของเล่น ท่อพีวีซี สำหรับร้อยสายไฟ ท่อพีวีซีน้ำดื่ม ฝักบัว ก๊อกน้ำลำโพง หมวกกันน็อก เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี