นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการ นโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด ครั้งที่ 1/2564 ว่า ที่ประชุมมีมติพิจารณาเดินหน้าโครงการประกันรายได้ข้าวเปลือกปี 3 โดยยังคงดำเนินการตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเดิมทั้งหมด
พร้อมกันนี้ ได้วางวงเงินงบประมาณในการใช้โครงการกันรายได้ไว้ที่ประมาณ 80,000 ล้านบาท และงบประมาณสำหรับมาตรการเสริมประมาณ 8,000 ล้านบาท คาดว่าจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้ช่วง 23 ส.ค. 2564 ก่อนที่จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
สำหรับสถานการณ์การประเมินผลผลิตข้าวนาปี 2564/65 คาดว่าจะอยู่ที่ 26 ล้านตันข้าวเปลือก ซึ่งปริมาณเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา 4.58% ซึ่งเป็นผลมาจากฝนดี น้ำดี ส่งผลให้ผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ นอกจากโครงการประกันรายได้ยังมีมาตรการเสริมคู่ขนานเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร เช่น สนับสนุนให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวชะลอการขาย ในช่วงที่ข้าวออกสู่ตลาดมากเพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวราคาตกจนเกินไป โดยเกษตรกรที่ชะลอขายข้าวจะได้รับเงินช่วยเหลือตันละ 1,500 บาท ช่วยเหลือดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับสหกรณ์หรือสีโรงสีที่เก็บสต๊อกข้าวและไม่ปล่อยออกสู่ตลาด โดนชดเชยดอกเบี้ย 3% และส่งเสริมการส่งออกข้าว โดยช่วยดอก 3% เป็นเวลา 6 เดือน ในเดือนต.ค. 2564 ถึงเดือนมี.ค. 2565
นอกจากนี้ การผลักดันการส่งออกข้าวได้เร่งรัดให้กรมการค้าต่างประเทศ เร่งเจรจาระบบจีทูจีกับจีน ซึ่งยังมี MoU ค้างการซื้อข้าวจะเข้าอยู่ 280,000 ตัน โดยขอให้มีการเร่งเจรจาให้ซื้อข้าวครบตามที่ได้ทำไว้โดยเร็วที่สุด
ส่วนโครงการประกันรายได้เกษตรกรปี 3 กับสินค้าเกษตร 5 ชนิด คือ ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 10,000 บาท ข้าวหอมมะลิตันละ 15,000 บาท ราคายางแผ่นดิบ 60 บาท ราคาน้ำยางสด 57 บาท ยางก้อนถ้วย กก.ละ 23 บาท มันสำปะหลัง กก.ละ 2.50 บาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กก.ละ 8.50 บาท และปาล์มน้ำมัน กก.ละ 4 บาท ยังคงเดินหน้าต่อไป
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มของราคาข้าวในตอนนี้ปรับตัวลดลงเนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19ส่งผลให้การบริโภคชะลอตัวรวมไปถึงการส่งออกข้าวของไทย แต่อย่างไรก็ดี จากแนวโน้มราคาที่อ่อนตัวลงส่งผลให้การแข่งขันการส่งออกข้าวของไทยดีขึ้น ซึ่งต้องเร่งผลักดันการส่งออกต่อไป ส่วนราคาข้าวเปลือกเจ้าปัจจุบันอยู่ที่ 7,000-8,000 บาทต่อตัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 8,700-9,400 บาทต่อตัน
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า การส่งออกข้าวของไทย 6 เดือนแรกของปี (ม.ค.-มิ.ย. 2564) ปริมาณอยู่ที่ 2.17 ล้านตัน หดตัว 25.68% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน หากดูเฉพาะเดือนก.ค. 2564 การส่งออกข้าวไทยไปในตลาดโลกอยู่ที่ 5.7 แสนตัน ขณะที่เป้าหมายการส่งออกข้าวไทยทั้งปีอยู่ที่ 6 ล้านตัน
อย่างไรก็ดี จากนี้ไทยต้องเร่งผลักดันการส่งออกโดยเฉพาะรูปแบบจีทูจี ทั้ง จีน อินโดนีเซียและบังกลาเทศ ที่ได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือร่วมกันซึ่งก็จะได้เร่งผลักดันในการส่งออกต่อไป อย่างไรก็ดี จากทิศทางราคาข้าวไทยที่อ่อนตัวลงจะทำให้การส่งออกข้าวของไทยจากนี้ดีขึ้น เห็นได้จากข้าวขาว 5% ไทยราคาอยู่ที่ 388 เหรียญสหรัฐต่อตันเวียดนามอยู่ที่ 390 เหรียญสหรัฐต่อตัน และอินเดียอยู่ที่ 385 เหรียญสหรัฐต่อตัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี