nn นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยังตามร้องเรียนเพื่อเอาผิดต่อ ฝ่ายบริหาร การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ต่อเนื่อง ครั้งนี้ไปยื่นหนังสือที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณี ประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (เตาปูน –ราษฎร์บูรณะ) เพราะมองว่าเงื่อนไขการประมูลมีข้อกังขา ทั้งที่รูปแบบโครงการนั้นคล้ายกับ รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี) คือก่อสร้าง อุโมงค์ และทางลอดแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เหตุใดจึงเลือกเกณฑ์การพิจารณาแตกต่างกัน...ในอดีตนั้น รฟม.ใช้เกณฑ์ปกติในการประมูลคือตัดพิจารณา เอกชนที่จะชนะประมูลจากผู้ที่ผ่านเกณฑ์ด้านเทคนิค จึงจะพิจารณาข้อเสนอด้านราคา ตัวอย่างเช่น รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (ต้องขุดเจาะอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยา)... วันดีคืนดี เมื่อ รฟม.เปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม และสายสีม่วงใต้ กลับไปนำเอาหลักเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกใหม่ โดยจะพิจารณา“ข้อเสนอด้านเทคนิคและการเงินประกอบกัน” ด้วยข้ออ้าง จำเป็นต้องได้ผู้รับเหมาที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในระดับสูง ทั้งที่เกณฑ์เดิมก็ใช้ได้ดีอยู่แล้ว
วันก่อนศาลปกครองสูงสุด ยกคำร้องกรณี รฟม.ปรับเปลี่ยนเกณฑ์ประมูลตามคำชี้ขาดของศาลปกครองกลาง ก็ทำเอาผู้บริหารรฟม.ตีปี๊บใหญ่โตว่า จะทำให้รฟม.เดินหน้าประกวดราคารถไฟฟ้าสายสีส้มได้เสียที ภายในไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ คนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง โดยเฉพาะนักลงทุนในตลาดหุ้นต่างพากันกระพือข่าวดีกันยกใหญ่ว่าจะส่งผลดีต่อหุ้นของบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่คาดว่าจะได้งานก่อสร้างรถไฟฟ้าแบบนอนมา แต่สำหรับผู้ที่คร่ำหวอดในวงการรับเหมาและก็ติดเส้นทางการประมูลรถไฟฟ้า ของ รฟม. กระทรวงคมนาคมมาโดยตลอดนั้น กลับฟันธงว่า “ไม่เห็นมีอะไรในกอไผ่” และไม่เห็นมีข่าวดีที่ว่า รฟม.จะสามารถเร่งรัดการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม อะไรได้เลย
คำสั่งของศาลปกครองสูงสุดข้างต้น หาใช่เป็นเรื่องใหม่เป็นเพียงมีคำสั่งยืนตามศาลปกครองกลางที่ให้ยกคำร้องในคดีที่รฟม.ถูกฟ้องว่า ปรับเปลี่ยนเกณฑ์ประมูลคัดเลือกที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่เมื่อภายหลังรฟม. ได้ตัดสินใจยกเลิกการประมูล โดยใช้เกณฑ์ดังกล่าวไปแล้ว ก็ถือว่าเหตุแห่งคดีได้ยุติไปแล้ว ศาลจึงให้จำหน่ายคดีนี้ไปก็แค่นั้นไม่มีอะไรเลย…
สรุปก็คือคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดที่ให้ยกคดีตามศาลชั้นต้น เป็นเพียงการอนุมัติให้จำหน่ายคดี ตามศาลชั้นต้น พิพากษาไว้ก่อนหน้าเท่านั้นไม่ได้ ผูกพันไปถึงคดีความอื่นๆ ที่คาราคาซังอยู่ในศาลหรือในมือป.ป.ช. แต่อย่างใด...หากจะถามว่า ถ้า รฟม. เดินหน้า เปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยยังคงใช้เกณฑ์ประมูล ที่รฟม.เลือกแล้วต่อไปจะทำให้เส้นทางการประมูลไหลลื่นราบรื่นหรือไม่...ไม่มีใครตอบได้...แต่ที่แน่ๆ หากในคดีความอื่นแทนที่ศาลปกครองยังคงพิจารณาอยู่มีคำตัดสินใดๆ ออกมา หรือ คณะกรรมการ ป.ป.ช.และศาลทุจริตและประพฤติมิชอบตัดสินคดีความที่ รฟม. ปรับเปลี่ยนเกณฑ์ประมูลที่เอื้อประโยชน์ต่อเอกชนรายใดรายหนึ่งนั้น ก็ย่อมจะทำให้ การประมูล รถไฟฟ้าสายสีส้มรวมสายสีม่วงใต้ที่กำลังดำเนินการอยู่ต้องหยุดชะงักไปแน่นอน
เหนือสิ่งอื่นใด ผลพวงจากการปรับเปลี่ยนเกณฑ์ประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ของรฟม.นั้นได้ยังความเสียหายให้เกิดขึ้นกับองค์กรรฟม.เองและประเทศชาติมหาศาล ดังเช่นที่ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่ง และรองหัวหน้าพรรค ปชป. ที่ออกมาระบุก่อนหน้าว่า ส่งผลให้เกิดความเสียหายมากกว่า 4.3 หมื่นล้านบาท/ปีทั้งจากที่ต้องจ่ายค่าดูแลโครงสร้างรถไฟฟ้า สายสีส้มตะวันออก ที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จก่อน แต่ยังไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ เพราะต้องรอรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกเจ้าปัญหา รวมทั้งยังทำให้ประชาชน ขาดโอกาสในการใช้บริการรถไฟฟ้าส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่ากว่า 4.3 หมื่นล้าน...!! ความเสียหาย ส่วนนี้ จนถึงวันนี้กระทรวงคมนาคมและรฟม. ช่วยตอบสังคมทีว่า ใครสมควรจะต้องรับผิดชอบ...nn
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี