nn ตอนนี้มีหลายฝ่ายหลายองค์กรพยายามเข้าไปตรวจสอบการทำงานของ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ดังจะเห็นได้จากมีหลายกลุ่มยื่นเรื่องร้องเรียน กสทช.อยู่บ่อยครั้ง...บางเรื่องก็ดูเข้าท่าเข้าทางบางเรื่องก็แบบว่าเรื่องไม่เป็นเรื่อง...เศรษฐศาสตร์วันหยุด...อยากแอบกระซิบว่า..หากอยากสร้างผลงานให้โลกจดจำ... ลองเข้าไปตรวจสอบการใช้งบประมารของ“กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ” หรือ กองทุน USO ของ กสทช. ซึ่งจะยังประโยชน์แก่ประเทศชาติได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
กองทุนดังกล่าวที่มีแหล่งรายได้จากการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม จากผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช.ในอัตรา 2.5% ทำให้กองทุนมีรายได้กองพะเนินกว่าปีละ 35,000-40,000 ล้านบาท และกองทุนนี้ถูกวิพากษ์มาตลอดว่า มีการใช้งบกันราว “สามล้อถูกหวย” ปั้นโปรเจกท์ถลุงงบกันสุดติ่งกระดิ่งแมวโดยปราศจากการตรวจสอบ...แม้ว่าวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุน USO จะเป็นไปเพื่อนำเงินไปพัฒนาบริการโทรคมนาคมในท้องถิ่นทุรกันดาร หรือพื้นที่ห่างไกล ที่ผู้ประกอบการโทรคมนาคมทั้งหลายไม่อยากเข้าไปลงทุน…แต่ก็อย่างที่กล่าวการใช้งบของกองทุนดังกล่าว โดยเฉพาะในห้วงของบอร์ดกสทช.ชุดปัจจุบันที่ทำหน้าที่รักษาการกันจนรากงอกนับสิบปี จากการที่รัฐบาลคสช.ในอดีตออกคำสั่ง ม.44 ล้มกระบวนการสรรหา กสทช.ชุดใหม่ไปถึง 2 ครั้งนั้น ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดว่า ถลุงงบยิ่งกว่า “สามล้อถูกหวย” เพราะเปิดกว้างให้มีการถลุงงบแบบครอบจักรวาลก็ว่าได้
ล่าสุดยังเจียดงบกองทุนอีกปีละกว่า 3,000 ล้านออกไปให้กระทรวงดีอีเอสผ่าน “คณะกรรมการดิจิทัลแห่งชาติ”ให้มาช่วยถลุงกันด้วยอีก…ลองไปไล่ตรวจสอบดูทีสิว่า..เงินก่อนนี้ DES เอาไปดำเนินโครงการอะไรบ้าง ตรงวัตถุประประสงค์ของกองทุน USO หรือเปล่า สร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติ ที่เป็นชิ้นเป็นอัน และจับต้องได้แค่ไหน ???????
ขณะที่ภารกิจหลักของกองทุนนั้นจะว่าไปก็ดำเนินการจนไม่มีงานหรือกิจกรรมใดเหลือให้ทำแล้ว อย่างโครงการ “เนตชายขอบ” หรือ โครงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบริการอินเตอร์เนตความเร็วสูง(ยูโซ่เนต) ในพื้นที่ชายขอบ ((Zone C) เฟสแรก 3,920 หมู่บ้าน วงเงิน 13,614.62 ล้านบาท และเฟส 2 อีกจำนวน 15,732 หมู่บ้าน มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาทนั้น กสทช.ได้ดำเนินการ ประกวดราคาไปตั้งแต่กลางปี 2562 ซึ่งก็นัยว่า เวลานี้ติดตั้งไปหมดแล้ว
ในห้วงที่ประเทศกำลังกระอักเลือดจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ธุรกิจน้อยใหญ่ ต่างล้มระเนระนาด กันรายวันอยู่นั้น บทบาทของกองทุน USO เองก็น่าจะถึงเวลาสังคายนาและปรับเปลี่ยน จะยกเลิกหรือปรับลดให้สมน้ำสมเนื้อกับภารกิจที่เหลืออยู่...แต่กลับไม่น่าเชื่อว่า บอร์ดกสทช.และบอร์ดบริหารกองทุนล่าสุดยังคงมีนโยบายให้คงอัตราจัดเก็บค่าธรรมเนียมยูโซ่ไว้ดังเดิม และสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันร่างช่วยกันผุดโปรเจกท์ ที่จะมาใช้งบกองทุนกันให้ละลานตา ราวกับว่าเศรษฐกิจไทยวันนี้กำลังโตวันโตคืน
ได้แต่หวังว่า การสรรหาและแต่งตั้ง กสทช.ชุดใหม่ที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภากำลังโม่แป้งอยู่ คงจะไม่ล้มไปอีกคราวกสทช.ชุดใหม่คงจะได้เข้ามาสังคายนากองทุน USO “สามล้อถูกหวย”นี้เสียใหม่ หาไม่แล้วคงจะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่อาจเรียกแขกให้งานเข้ารัฐบาลอีก!!!
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี