บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งข่าวว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยสนับสนุนรถกระบะ มิตซูบิชิไทรทัน จำนวน 3 คัน เพื่อร่วมภารกิจเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อเข้ารับการรักษาตัวที่ฮอสพิเทล และโรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยรถกระบะดังกล่าว ได้ถูกดัดแปลง และติดตั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น พร้อมระบบป้องกันเชื้อโรค โดยสามารถรองรับผู้โดยสารรวมถึงคนขับได้สูงสุดถึง 12 ที่นั่ง
รถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน ทั้ง 3 คัน ที่ถูกดัดแปลงให้กลายเป็นรถสำหรับใช้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยในกรณีไม่ฉุกเฉิน เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการช่วยเหลือสังคมของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยเพื่อการสนับสนุนโครงการ“เรื่องเล่าเช้านี้ ช่วยผู้ประสบภัยโควิด-19” ซึ่งริเริ่มโดยนายสรยุทธ สุทัศนะจินดาผู้ประกาศข่าวชื่อดัง และผู้ก่อตั้งรายการข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ โดยจับมือกับพันธมิตรในเพจเฟซบุ๊ค อาทิ เพจ “เราต้องรอด”“อีจัน” และเพจ “เส้นด้าย” เพื่อช่วยประสานงานเคลื่อนย้ายผู้ป่วยให้เข้าสู่กระบวนการรักษา
มร.เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ยังคงดำเนินต่อไป เราตระหนักดีถึงความยากลำบาก และความท้าทายที่เกิดขึ้น มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยืนหยัดอยู่เคียงข้างประเทศไทยมานานกว่า 60 ปี และเราจะร่วมกันเดินหน้าสู้กับไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้อย่างไม่หยุดยั้งผ่านการสนับสนุน และการมอบความช่วยเหลือหลากหลายด้าน ซึ่งก่อนหน้านี้ เราได้บริจาคหน้ากากอนามัย N95 น้ำดื่ม กระดาษลังเพื่อใช้ประกอบเตียงสนาม อุปกรณ์ทางการแพทย์ และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลให้แก่โรงพยาบาลหลายแห่ง”
รถกระบะที่ถูกดัดแปลง คือมิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นตอนเดียว ขับเคลื่อน 2 ล้อ เพื่อภารกิจการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ ได้รับการติดตั้งระบบป้องกันเชื้อโรค 4 ชั้น ท่อออกซิเจนมาตรฐานทางการแพทย์ และอุปกรณ์การแพทย์พื้นฐานอื่นๆ ส่วนท้ายกระบะได้ถูกดัดแปลงเป็นห้องโดยสาร มีการติดตั้งเบาะนั่งที่รองรับสรีระอย่างเป็นธรรมชาติทั้งสองฝั่ง สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 10 คน ห้องโดยสารส่วนท้ายกระบะถูกติดตั้งอยู่บนโครงรถ(Chassis) ด้านหลังห้องโดยสารผู้ขับขี่ทำจากเหล็กกล้า และอะลูมิเนียมเกรดพิเศษที่มีความแข็งแรง ปลอดภัย ทนทานต่อแรงกระแทก
ด้วยกลไกระบบป้องกันเชื้อโรค 4 ชั้น ที่นอกจากจะมีการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ HEPA เครื่องผลิตโอโซนหลอดไฟฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวีซีแล้ว ยังมีการออกแบบผนัง และเพดานของห้องโดยสารที่สร้างจากพลาสติกเสริมความแข็งแรงด้วยไฟเบอร์ที่ป้องกันแบคทีเรียตามมาตรฐาน ISO 22196 และ JIS Z 2801 พื้นผิวผ่านการทดสอบการปกป้อง และได้รับรองประสิทธิภาพสูงสุด มีอายุใช้งานอย่างน้อย 55 ปี ภายในห้องโดยสารเพียบพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานทางการแพทย์ อาทิ อุปกรณ์ช่วยหายใจเครื่องวัดความดันโลหิตพร้อมเครื่องช่วยฟังและถังออกซิเจน พร้อมกันนี้การไหลเวียนอากาศระหว่างห้องผู้ขับขี่ส่วนหน้า และห้องผู้โดยสารส่วนท้ายถูกปิดผนึกอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งรถกระบะดัดแปลงทั้ง 3 คัน ดังกล่าว มีมูลค่ารวมจากการดัดแปลง พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ และระบบป้องกันเชื้อโรคกว่า 3.7 ล้านบาท โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีการส่งมอบรถกระบะดัดแปลงทั้ง 3 คัน ดังกล่าว ให้แก่ นายสรยุทธ นำโดย นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานขายบริการหลังการขาย และการพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่ายในฐานะตัวแทนของมิตซูบิชิมอเตอร์ส ประเทศไทย พร้อมด้วยผู้บริหารจากบริษัทอีกด้วย
นอกจากการสนับสนุนจัดหารถเพื่อเคลื่อนย้ายผู้ป่วย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังมอบบัตรเติมน้ำมัน เพื่อสนันสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางสำหรับรถยนต์เพื่อการขนส่งผู้ป่วย ซึ่งก่อนหน้านี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยได้ส่งรถกระบะมิตซูบิชิไทรทันจำนวน 2 คันเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานรายวันเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ป่วยโควิด-19
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยจะยังคงยึดมั่นในปณิธานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม “สรรค์สร้างเคียงข้างสังคมไทย”ด้วยการสนับสนุนกิจกรรมด้านสาธารณสุขแก่ประเทศไทยโดยจะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้การสนับสนุนกิจกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม ภายใต้แนวคิด “ร่วมด้วย ช่วยไทย” เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคนไทยที่จะต่อสู้และหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี