‘เหนื่อย..แต่ขอตรวจให้มากที่สุดเพื่อลดสูญเสีย’ เสียงสะท้อนบุคลากร ‘End-to-End’ ฝ่าวิกฤตโควิด-19

“ที่นี่มีตรวจตั้งแต่ Test Kit เมื่อ Positive (ผลระบุว่าติดเชื้อ) เราก็จะตรวจ RT-PCR ต่อเลย เราจะให้คนไข้มารับยาตัวฟาวิพิราเวียร์ แล้วก็ทำการเอกซเรย์ปอดภายในวันเดียวกัน คือทุกอย่างจะเบ็ดเสร็จและครบวงจรในวันเดียว  ในภาวะที่เป็นกลุ่มเขียวแต่มีโรคแทรกซ้อน หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน ไขมัน คือ 7 กลุ่มโรคเสี่ยงทั้งหลาย เราจะพยายามส่งไป Hospitel”

พญ.เบญจรินทร์ ลิ้นจี่ หนึ่งในบุคลากรทางการแพทย์ที่เข้าร่วมโครงการ “หน่วยคัดกรองและโรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-to-End)” บอกเล่าถึงขั้นตอนการตรวจคัดกรองหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่การใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) คัดกรองในเบื้องต้น หากพบว่าติดเชื้อก็จะตรวจด้วยวิธี RT-PCR ซ้ำอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับรับยาที่จำเป็น และเอกซเรย์ปอดเพื่อวินิจฉัยว่ามีอาการรุนแรงหรือไม่อย่างไร

ทั้งหมดนี้เป็น “One Stop Service” จุดเดียวและดำเนินการเสร็จในวันเดียว ณ อาคาร EnCo Terminal หรือ EnTer ของบริษัท Energy Complex กลุ่ม ปตท. ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ ซึ่งตั้งเป็น “จุดที่ 1 หน่วยคัดกรอง” ก่อนที่จะส่งต่อไปยัง “จุดที่ 2 , 3 และ 4” ที่เป็น “โรงพยาบาลสนาม” หากเป็นผู้ติดเชื้อ โดยมีตั้งแต่โรงพยาบาลสนามสำหรับ “สีเขียว” ผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการป่วยหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย “สีเหลือง” ผู้ป่วยที่มีอาการในระดับหนักขึ้น และ “สีแดง” สำหรับผู้ป่วยอาการหนักเข้าขั้นวิกฤต

โครงการหน่วยคัดกรองและโรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-to-End) เป็นความร่วมมือของ “กลุ่ม ปตท.” กับพันธมิตรหลากหลายองค์กร ประกอบด้วย กระทรวงสาธารณสุข สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มูลนิธิโรงพยาบาลในเครือบางปะกอกฯ และโรงพยาบาลปิยะเวท เพื่อรับมือสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) พื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อสูงที่สุดในประเทศไทย ภายใต้หลักคิด “ตรวจเร็ว แยกเร็ว รักษาเร็ว” ผู้ติดเชื้อได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที ลดโอกาสเสียชีวิตลง

สำหรับโรงพยาบาลสนามนั้น ผู้ป่วยที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ทุกระดับความรุนแรง จะอยู่ภายใต้การดูแลของบุคลากรทางการแพทย์จาก รพ.ปิยะเวท แบ่งได้ดังนี้ 1.โรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยกลุ่ม “สีเขียว” เปิดให้บริการในรูปแบบของ Hospitel กระจายไปในหลายโรงแรมใน กทม. จำนวนกว่า 1,000 เตียง รองรับผู้ป่วยที่ส่งต่อมาจากหน่วยคัดกรองอย่างเป็นระบบ อนึ่ง “ยังมีระบบการดูแลตนเองที่บ้านหรือในชุมชน (Home Isolation หรือ Community Isolation) อีกด้วย สำหรับผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่มีความพร้อม” ซึ่งผู้ป่วยจะได้รับมอบ “กล่องพลังใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน” ประกอบไปด้วยชุดอุปกรณ์ทางการแพทย์และยาที่จำเป็น รวมทั้งมีระบบติดตามอาการ

2.โรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยระดับ “สีเหลือง” เปิดให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ มีเตียงผู้ป่วยจำนวน 300 เตียง มีระบบออกซิเจน ต่อ Direct Tube ส่งตรงถึงทุกเตียงผู้ป่วย และ  3.โรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยระดับ “สีแดง” จัดสร้างโรงพยาบาลสนาม ICU บนพื้นที่ 4 ไร่ จำนวน 120 เตียง สำหรับผู้ป่วยอาการหนัก โดยปรับพื้นที่โล่งของ รพ.ปิยะเวท เป็นสถานที่ก่อตั้ง โดยจัดทำห้องรักษาความดันลบแยกรายผู้ป่วย ห้องละ 1 เตียง ซึ่งเป็นครั้งแรกของโรงพยาบาลสนามในประเทศ พร้อมระบบ Direct Tube ส่งท่อออกซิเจนตรงทุกห้องผู้ป่วย และมีการติดตั้งถังออกซิเจนเหลวขนาด 10,000 ลิตรพร้อมห้องฉุกเฉินให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

อโนชา กลีบมณฑา นักเทคนิคการแพทย์ กล่าวว่า EnCo เป็นสถานที่กว้างขวางมาก อีกทั้งจัดพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วนทั้งจุดลงทะเบียน จุดตรวจคัดกรองโรค และจุดพักคอย ผู้ที่มารับบริการมีตั้งแต่ผู้สูงอายุซึ่งหลายคนต้องนั่งวีลแชร์ ไปจนถึงเด็กเล็กอายุเพียง 1 ขวบ ขณะที่ นภัสมน ขันอุดทา เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล กล่าวเสริมว่า กระบวนการตรวจคัดกรองนับตั้งแต่จุดลงทะเบียนจนถึงทราบผลตรวจ ATK จะใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 45 นาที หากผลเป็นลบ อันหมายถึงไม่ติดเชื้อ ก็สามารถกลับบ้านได้ แต่หากผลเป็นบวก อันหมายถึงติดเชื้อ ก็จะส่งต่อไปยังทีมงานของ รพ.เปิยะเวท ให้สอบถามอาการเพื่อจัดลำดับผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว เหลืองหรือแดงต่อไป

ด้าน ทิพรัตน์ เหลือศิริ นักเทคนิคการแพทย์ ระบุว่า วันหนึ่งมีการตรวจเฉลี่ย 900-1,000 คน แต่บางวันก็มากถึง 1,400 คน สัดส่วนการพบผลบวกหรือติดเชื้ออยู่ที่ร้อยละ 10 นอกจากนี้ ยังมีเสียงจากเจ้าหน้าที่อีก 2 ท่าน ที่กล่าวเสริมว่า ความหวังของบุคลากรที่มาทำงานในโครงการ คือยิ่งตรวจได้มากและพบผู้ติดเชื้อได้เร็ว ก็จะสามารถรักษาให้หายได้เร็ว สถานการณ์ก็จะดีขึ้นด้วย

“การมาตรงนี้มันเป็นที่พึ่งของคนไข้ ที่ไม่รู้เราจะเริ่มต้นอย่างไรเมื่อเรามีคนในบ้านติดเชื้อ หรือไม่รู้ว่าจะทำอะไรเลย ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ก็สามารถมาตรวจที่เราได้เลย คนไข้สามารถที่จะรักษาหายได้ในจุดๆ เดียว ที่มาที่นี่ ถามว่าเหนื่อยไหม? ร้อนไหม? ร้อน..อย่างไรก็ร้อนอยู่แล้วเพราะว่าชุดที่เราใส่มันป้องกันอากาศภายนอกทั้งหมดเลย แต่ว่าเราสามารถทนได้ เพื่อให้ประชาชนเขาได้รับการตรวจ เข้าถึงมากที่สุด” เจ้าหน้าที่ในโครงการท่านหนึ่ง กล่าว

สำหรับผู้ที่ต้องการใช้บริการหน่วยคัดกรองและโรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-to-End) สามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “QueQ” ซึ่งดาวน์โหลดได้ทั้ง Play Store ของแอนดรอยด์ และ App Store ของ iOS เพื่อจองคิวตรวจโควิด-19 และเดินทางเข้ามาตรวจคัดกรองตามวันนัดหมาย

กลุ่ม ปตท. มุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในการช่วยลดอัตราการเสียชีวิตและหยุดยั้งการระบาด นำพาสังคมไทยผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ด้วยเชื่อว่าเพราะเรามีลมหายใจเดียวกัน