รานงานพิเศษ : โรงไฟฟ้าขยะชุมชน...ยังวนอยู่ในอ่าง  เหตุเพราะบทบาทหน่วยงานรัฐ...เข้าตำรา‘ซ้ายพิฆาตขวา’

รานงานพิเศษ : โรงไฟฟ้าขยะชุมชน...ยังวนอยู่ในอ่าง เหตุเพราะบทบาทหน่วยงานรัฐ...เข้าตำรา‘ซ้ายพิฆาตขวา’

วันจันทร์ ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2564, 06.00 น.
Tag :

nn การนำขยะมาปั่นไฟฟ้า เป็นการบริหารจัดการขยะที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างได้ผล ทั้งลดปริมาณขยะและผลิตไฟฟ้าเข้าระบบซึ่งกระทรวงมหาดไทยผลักดันในเรื่องนี้มาตลอดหลายปี โดยมีการวางกฎระเบียบต่างๆมารองรับ ให้โครงการเดินหน้าอย่างถูกต้องตามขั้นตอน และบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ

นับตั้งแต่การออกพ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2560 และจัดตั้งคณะกรรมการกลางจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย เพื่อคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนกับรัฐ มีหน่วยงานที่ดูแลกิจการพลังงานของประเทศเข้ามาร่วมทำงานด้วย ทั้งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.), สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน, กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน


นอกจากนี้โครงการนี้ก็ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อ เดือนพฤษภาคม 2560 ให้รับซื้อไฟฟ้าจากขยะชุมชนในรูปแบบฟีด-อิน-ทารีฟ (FIT) สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) ปั่นไฟไม่เกิน 50 เมกะวัตต์ ในอัตรา 3.66 บาทต่อหน่วย โดยมีเอกชนผ่านกระบวนการคัดเลือกเข้า “โครงการกำจัดขยะเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” รวม 23 โครงการ กำลังผลิตรวม 234.7 เมกะวัตต์

แต่จนถึงบัดนี้เข้าไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 โครงการไม่สามารถเดินหน้าได้ โดยกกพ.ยังไม่มีการออกระเบียบรับซื้อไฟฟ้า และประกาศรับซื้อไฟฟ้าโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน ตามมติ กพช. 31 พฤษภาคม 2560 และที่สำคัญกระทรวงพลังงานยังเตรียมรื้อกฎเกณฑ์ใหม่ทั้งหมด รวมถึงทบทวนราคารับซื้อใหม่ ส่งผลให้เจ้าภาพหลักของโครงการและภาคเอกชนแคลงใจหนัก เพราะโครงการนี้ได้ผ่านขั้นตอนการคัดเลือกมาแล้ว เพราะในการประกวดราคาดังกล่าว เอกชนทุกรายได้ใช้อัตรารับซื้อจำนวน 3.66 บาท บวกอัตราเงินเฟ้อเป็นฐานในการคำนวณแผนการลงทุนสำหรับใช้ประกวดราคา จนทำให้ได้รับการพิจารณา และเข้าทำสัญญากับกรุงเทพมหานครแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนต่างๆ ก่อนเริ่มงานก่อสร้าง

การปรับอัตราการรับซื้อใหม่ จึงสร้างความไม่เป็นธรรมให้กับเอกชนที่ได้รับการคัดเลือก เพราะการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ใดๆ โดยเฉพาะการปรับลดอัตรารับซื้อไฟฟ้าควรนำมาใช้กับโครงการที่เกิดภายหลังซึ่งยังไม่ผ่านกระบวนการคัดเลือกเอกชนเข้ามาดำเนินการ

นอกจากนี้เอกชนยังสงสัยอีกประการ ในเรื่องอัตราการรับซื้อไฟฟ้าที่ 3.66 บาทต่อหน่วย ที่ประกาศออกมานั้น ก็มาจากผลการศึกษาต้นทุนของสถาบันวิจัยพลังงาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่กระทรวงพลังงานให้ดำเนินการเอง ซึ่งได้นำอัตราการเก็บ และขนมูลฝอย รวมถึงกำจัดมูลฝอย ตามพ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ และประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการจัดการขยะมูลฝอย พ.ศ. 2560มาประกอบการพิจารณา เป็นอัตราที่ทำให้การปั่นไฟฟ้าจากขยะ ไม่สร้างภาระเพิ่มเรื่องค่าจัดการขยะกับประชาชน จึงเป็นที่มาของการอุดหนุนค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน ในขณะเดียวกันก็ไม่ผลักภาระค่ากำจัดขยะให้กับประชาชนด้วย จึงกำหนดอัตราการรับซื้อไฟฟ้าในอัตรา 3.66 บาท
ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมทั้งในส่วนของรายจ่ายการจัดเก็บขยะที่ประชาชนต้องจ่ายและความคุ้มค่าของการลงทุนของภาคเอกชนที่เข้ามาลงทุนรับจ้างดำเนินโครงการ ขณะที่แนวทางการปรับราคารับซื้อไฟฟ้าใหม่ กระทรวงพลังงาน โดยสนพ.ได้ทำการศึกษาเองเป็นการภายใน โดยไม่มีการประกาศข้อมูลการศึกษาอย่างเปิดเผยต่อสาธารณะ

ความล่าช้าจนมาถึงการรื้อกฎเกณฑ์ต่างๆ ทั้งที่โครงการได้ผ่านขั้นตอน จนถึงเตรียมงานก่อสร้างนั้น ทำให้หลายหน่วยงานและภาคเอกชน กำลังจับตาโครงการปั่นไฟฟ้าจากขยะ ว่าจะเดินหน้าอย่างไรต่อไปกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการผลักดัน และขับเคลื่อนโครงการมาโดยตลอด เพื่อลดปริมาณขยะล้นเมือง จะผลักดันสำเร็จหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ทุกภาคส่วนได้แต่หวังว่าทุกอุปสรรคจะถูกปลดล็อกโดยเร็ว และเห็นภาพกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงพลังงานจับมือเดินหน้าโครงการอย่างลุล่วง

กระบองเพชร

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top