ที่กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 24 กันยายน2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออกเดือนสิงหาคม 2564
นายจุรินทร์กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออกเดือนสิงหาคมขยายตัว +8.93% ถ้าหักยุทธปัจจัย ทองคำและน้ำมัน จะเหลือภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงจะ +19.43% มูลค่าการส่งออก 715,416.40 ล้านบาท หรือ 21,976.23ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนตัวเลขส่งออกช่วง 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) ขยายตัว +15.25% มูลค่า 5,441,613.75 ล้านบาท
โดยปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการส่งออกเดือนสิงหาคมองไทยยังเป็นบวก คือมาตรการการแก้ปัญหาเชิงรุกและต่อเนื่องของ กรอ.พาณิชย์ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกต 4 ข้อ คือ ข้อที่ 1 ประเทศเวียดนามซึ่งตัวเลขส่งออกดีมาโดยลำดับ เดือนสิงหาคมติดลบ 1.7% เพราะสถานการณ์โควิด ข้อที่ 2 สำหรับไทยตัวเลขการเติบโตเดือนสิงหาคมน้อยลงกว่าเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพราะไทยเผชิญปัญหาคล้ายเวียดนาม โควิดรอบใหม่และมีการล็อกดาวน์ ภาคการผลิตบางแห่งปิดโรงงานหรือปิดการผลิตบางส่วนรวมทั้งปัญหาโลจิสติกส์ข้ามจังหวัดและข้ามแดนที่มักเกิดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม และเดือนกรกฎาคม
อย่างไรก็ตามเนื่องจากเราสามารถแก้ปัญหาเชิงรุกได้อย่างรวดเร็วร่วมกับเอกชน และรัฐบาลให้ความสำคัญในการช่วยกระทรวงพาณิชย์แก้ปัญหาจึงทำให้ตัวเลขการส่งออกเดือนสิงหาคมมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่าเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เดือนกรกฎาคมตัวเลขส่งออกรวม 708,651.66ล้านบาท เดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นเป็น 715,400ล้านบาท
ส่วนการขับเคลื่อนการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้ กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับเอกชนผลักดันการส่งออกต่อไป เพื่อทำรายได้เข้าประเทศต่อไป โดยมั่นใจว่า การส่งออกทั้งปี จะทำได้เกินเป้าหมาย 4% อย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นตัวเลข 2 หลักตามที่เอกชนประเมินไว้หรือไม่ ก็จะทำให้ดีที่สุด และเชื่อว่าทำได้
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการนำเข้าในเดือนสิงหาคม มีมูลค่า 23,191.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 47.92% โดยการนำเข้าในเดือนสิงหาคมขยายตัวอยู่ในระดับสองหลัก จากการนำเข้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป มีมูลค่าสูงขยายตัวถึง 65.73%การนำเข้าสินค้าทุนขยายตัว 23.82% สาเหตุของการขยายตัว 2 ปัจจัยสำคัญ 1.การฟื้นตัวของภาคการผลิต เพื่อการผลิตและส่งออก 2.ราคาสินค้าวัตถุดิบยังขยายตัวสูงขึ้นตามความต้องการใช้สินค้าทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้น
ส่วนปัญหาขาดแคลนชิพในการพัฒนาสินค้า เซมิคอนดักเตอร์ รถยนต์ไฟฟ้าเนื่องจากช่วงดังกล่าวมีความต้องการสูง และประเทศผู้ผลิตรายสำคัญ เช่น ไต้หวันเกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา ประสบปัญหาภัยธรรมชาติและไต้หวัน เกาหลีใต้ประสบปัญหาโควิดมีผลทำให้กระทบต่อการผลิตหยุดการผลิตชั่วคราว จากการสอบถามภาคเอกชนในไตรมาสที่ 3 จะไม่กระทบกับสินค้าส่งออกเท่าไรนักเพราะมีสินค้าคงคลังเก็บไว้อยู่อาจจะเห็นผลกระทบชัดเจนขึ้นในไตรมาสที่ 4 โดยตัวเลขสินค้าส่งออกด้านนี้ในช่วงที่ผ่านมายังขยายตัวได้ดีอยู่ทั้งรถยนต์ อุปกรณ์ ส่วนประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ แผงวงจรไฟฟ้า ภาคเอกชนหวังว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้นเพราะช่วงที่ผ่านมามีความต้องการมากจนผลิตไม่ทันและปัญหาภัยธรรมชาติ และโควิดโรงงานไม่สามารถผลิตได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี