นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เดินหน้าปรับปรุงกฎหมายลิขสิทธิ์ เพื่อแก้ไขปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์บนอินเตอร์เนตได้อย่างรวดเร็ว โดยได้ปรับให้เจ้าของลิขสิทธิ์ใช้ช่องทางความร่วมมือกับผู้ให้บริการอินเตอร์เนต เช่น Facebook YouTube นำงานละเมิดลิขสิทธิ์ออกจากระบบทันทีเมื่อได้รับการแจ้งเตือน โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการทางศาลซึ่งมาตรการที่แก้ไขดังกล่าวจะช่วยให้สามารถระงับการละเมิดลิขสิทธิ์บนสื่อออนไลน์ได้อย่างทันท่วงที
“กฎหมายลิขสิทธิ์ในปัจจุบัน ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์บนอินเตอร์เนตได้อย่างรวดเร็วเพียงพอ เพราะหากพบการละเมิดลิขสิทธิ์บนสื่อออนไลน์ ต้องใช้กระบวนการทางศาล เพื่อระงับการเผยแพร่ และยังไม่มีบทกำหนดโทษแก่ผู้ผลิต ผู้ขายอุปกรณ์ที่ทำขึ้นเพื่อการละเมิดลิขสิทธิ์ แต่กฎหมายใหม่ ได้ปิดช่องว่างตรงนี้ และมั่นใจว่าจะดูแลปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ดีขึ้น โดยล่าสุดร่างกฎหมายดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญแล้ว และกำลังนำเข้าสู่ชั้นการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 2 และ 3 ต่อไป”นายสินิตย์กล่าว
การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์ดังกล่าว ยังเป็นการรองรับการเข้าเป็นภาคีความตกลงสนธิสัญญาว่าด้วยลิขสิทธิ์ขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WCT) ที่เกี่ยวกับการคุ้มครองงานลิขสิทธิ์บนอินเตอร์เนต ส่งเสริมให้เกิดการสร้างสรรค์ผลงานลิขสิทธิ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ที่ไทยมีศักยภาพ และช่วยดึงดูดให้นักลงทุนต่างประเทศมาลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์ในประเทศไทยมากขึ้น อีกทั้ง คาดหวังว่าจะส่งผลเชิงบวกที่จะทำให้ไทยหลุดจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (WL) ภายใต้กฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ (Special 301) ในการทบทวนรายงานประจำปี 2565
นายเกียรติ สิทธีอมร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ (ฉบับที่. ...) พ.ศ. ... สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การแก้ไขปรับปรุงพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ในครั้งนี้ ได้ทบทวนปัญหาที่เกิดขึ้นในการบังคับใช้ทั้งหมด มีการปรับปรุงบทบัญญัติของกฎหมายให้ทันสมัย สอดคล้องกับกติกาสากล การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี รวมทั้งพฤติกรรมของผู้ประกอบการและผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยเนื้อหาที่เป็นหลักเกณฑ์สำคัญ ได้มีการระบุให้ชัดเจนในตัวกฎหมาย แทนที่จะกำหนดอยู่ในกฎกระทรวงหรือประกาศกระทรวง
สำหรับการปรับปรุงที่เป็นสาระสำคัญเช่น การแจ้งเตือนและเอาออก (Notice andTakedown) การกำหนดนิยามมาตรการทางเทคโนโลยีให้ชัดเจน เพิ่มบทลงโทษให้รวมถึงผู้ผลิตอุปกรณ์ที่ละเมิดมาตรการทางเทคโนโลยี เป็นต้น
นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ยังได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการจับกุมการกระทำความผิดซึ่งหน้าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งเป็นปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนมากที่สุดปัญหาหนึ่ง และปรากฏเป็นข่าวอื้อฉาวในช่วงที่ผ่านมา ที่ต้องได้รับการแก้ไข เพื่อไม่ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจจับกุมโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากผู้บังคับบัญชา
ส่วนกรณีที่กลุ่มศิลปิน ดารา นักแสดง ที่อาจถูกเอารัดเอาเปรียบโดยผู้ประกอบการบางราย ก็ได้มีการเสนอให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาเข้าไปกำกับดูแลให้เข้มข้นมากขึ้น และจัดทำสัญญามาตรฐาน เพื่อให้ทุกฝ่ายนำไปใช้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โดยได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ ผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนทั่วไปที่เข้าร่วมรับฟัง ต่างก็เห็นด้วย และสนับสนุนการแก้ไขในครั้งนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี