นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รายงานภาวะเศรษฐกิจ เดือนก.ย. 2564 ว่า ด้านการท่องเที่ยว โดยในเดือนก.ย. พบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศจำนวน 12,237 คน ขยายตัวที่ร้อยละ 100.0 ต่อปีขณะที่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)คาดการณ์ว่าปี 2565 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเร่งขึ้นมาอยู่ในช่วงร้อยละ 4.0 ต่อปี โดยคาดว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจำนวน7 ล้านคน
ทั้งนี้ถือว่าสอดคล้องจากผลสำรวจของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รวมทั้งนักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจส่วนใหญ่มีมุมมองว่า เศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วในปี 2565 ปัจจัยหนึ่งมาจากความสำเร็จของรัฐบาลในการเร่งกระจายการฉีดวัคซีน ทำให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ทำให้หลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยกลับมาดำเนินกิจการได้เกือบเหมือนปกติตั้งแต่ปลายปืนี้
ด้าน นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ในเดือนต.ค. 2564 ที่ปรับตัวดีขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 เดือนอยู่ที่ระดับ 19.9 โดยยังคงมาจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และการเปิดรับนักท่องเที่ยว เพราะจะทำให้หลายกิจการกลับมาเปิดดำเนินการได้ แต่ภาคเอกชน อยากให้ภาครัฐ มีการเตรียมแผนป้องกันความเสี่ยงจากการเปิดประเทศ เร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมทั้งประเทศ รวมทั้งเร่งกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน และหามาตรการลดต้นทุนของภาคธุรกิจ
“แนวโน้มความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และของภาคธุรกิจ น่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องหลังจากนี้ จากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะกลับมา รวมทั้งมาตรการผ่อนคลายที่จะทยอยเปิดมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจกลางคืน ที่จะส่งผลดีกับผู้ค้าที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ตลาดนัดกลางคืน หรือผู้ขับรถรับจ้าง กลับมาคึกคัก รวมทั้งช่วงปลายปี มีเทศกาลเฉลิมฉลอง จะส่งผลให้คนจะออกมาจับจ่าย และท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ”นายธนวรรธน์ กล่าว
ประกอบกับรวมกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้าย ซึ่งยังมีเม็ดเงินจากโครงการคนละครึ่ง ประมาณ 1 แสนล้านบาท รวมทั้งจะมีเงินสะพัดจากการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่จะส่งผลดีให้เศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายขยายตัวได้ร้อยละ 4-5 จึงมองเศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัว ร้อยละ 1-1.5 และทางศูนย์ฯจะประเมินภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจไทยในปีนี้และแนวโน้นปีหน้าอีกครั้งและจะแถลงข่าวในวันที่ 18 พ.ย. 2564 นี้
อย่างไรก็ตาม ในปีหน้ารัฐบาล ควรผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 เพื่อให้ไทยสามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศได้เพิ่มเติม โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องยังคงมีความจำเป็น ทั้งคนละครึ่ง และช้อปดีมีคืน รวมทั้งการส่งออกที่ยังดี ขยายตัวได้ร้อยละ 7-10 ก็จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้ โดยไม่จำเป็นจะต้องกู้เงินเพิ่มเติมอีกซึ่งการขยายเพดานหนี้สาธารณะไปที่ร้อยละ 70 ของจีดีพี จะทำให้รัฐบาลสามารถกู้ได้อีก แต่ไม่จำเป็นต้องกู้ให้เต็มเพดาน เพราะจะทำให้หนี้สาธารณะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี