นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท. ได้เข้าร่วมงานหารือระดับสูงด้านการทูตเศรษฐกิจเรื่อง “การปรับตัวของไทยต่อโครงการรถไฟจีน-ลาว” โดยมี นายเวทิต โชควัฒนา รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานสายงานอาเซียนและโลจิสติกส์เป็นตัวแทนเข้าร่วมการหารือ ซึ่งในการหารือมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกระหว่างหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เกี่ยวกับข้อริเริ่มพหุภาคีด้านโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งกำหนดท่าทีและแนวทางการขับเคลื่อนการทูตทางเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงให้สอดคล้องกับบริบทโลกใหม่
โดยในการหารือแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ 1.การบริหารความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจมหภาค และการเตรียมความพร้อมของเศรษฐกิจไทยในภาพรวม โดยการใช้กลไกทางการทูตแสวงหาหุ้นส่วนด้านธุรกิจและนวัตกรรม สร้างพันธมิตรกับทุกภาคส่วน และส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ ทั้งห่วงโซ่อุปทาน ผ่านกรอบความร่วมมือทั้งในระดับทวิภาคี พหุภาคี ในภูมิภาคและอนุภูมิภาค 2.การส่งเสริมโอกาสและขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชนไทย โดยเน้นที่การส่งเสริมระบบนิเวศทางธุรกิจร่วมกันในภูมิภาคที่เอื้อต่อการแข่งขันและการประกอบธุรกิจ การผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศ เกี่ยวกับกฎระเบียบการขนส่งสินค้า โดยต้องเน้นที่การหารือไตรภาคี จีน ลาว ไทย รวมถึงการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในส่วนที่เป็น Missing Links ระหว่างหนองคาย และเวียงจันทน์
“การเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟลาว-จีนมีส่วนช่วยในการประหยัดต้นทุนในการขนส่งของผู้ประกอบการได้เป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ ต้องรอความชัดเจนด้านค่าระวางการขนส่งทางรถไฟ เพื่อประเมินถึงความคุ้มค่าในการใช้ประโยชน์ทางธุรกิจของภาคอุตสาหกรรมต่อไป รวมถึงขอให้ภาครัฐสนับสนุนข้อมูลเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยในการเข้าไปลงทุนใน สปป.ลาว ด้วย” นายสุพันธุ์กล่าว
มีรายงานจาก การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) แจ้งว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ร.ฟ.ท.ได้ร่วมประชุมวางแผนงานและบูรณาการแผนงานของทั้งสองหน่วยงานร่วมกัน เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าจีน-ลาว-ไทย จากรถไฟจีน-ลาวผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว (หนองคาย-เวียงจันทน์) ซึ่งการเปิดให้บริการขบวนรถไฟขนส่งสินค้าข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ถือเป็นความสำเร็จในการเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระบบรางของทั้ง 2 ประเทศเข้าด้วยกัน ซึ่งสอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนาโลจิสติกส์ของประเทศในการสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
นอกจากนี้ เป็นการรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าข้ามแดนระหว่างไทย-ลาว ที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากการเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูง สปป.ลาว-จีน ในวันที่ 2 ธ.ค. 2564 นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี