“รางวัลลูกโลกสีเขียว” รางวัลเกียรติยศแด่ผู้ที่ทุ่มเทเพื่องานด้านสิ่งแวดล้อม ถือกำเนิดขึ้นในปี 2542 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ยกย่อง ตลอดจนเผยแพร่ผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ในวงกว้าง โดยแบ่งเป็นประเภทบุคคล ชุมชน กลุ่มเยาวชน สื่อมวลชน รางวัลประเภทงานเขียน ความเรียงเยาวชน ต่อมาในปี 2548 ได้มีการเพิ่ม “รางวัล สิปปนนท์ เกตุทัต รางวัลแห่งความยั่งยืน” สำหรับชุมชนที่เคยได้รับรางวัลลูกโลกสีเขียวมาแล้ว 5 ปีขึ้นไป แต่ยังคงอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเข้มแข็ง และมีนวัตกรรมใหม่ๆ ในการอนุรักษ์ซึ่งสอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนไปด้วย
ในการประกาศผลรางวัลลูกโลกสีเขียวครั้งล่าสุด ซึ่งเป็นครั้งที่ 20 นั้นมีผลงานได้รับคัดเลือกทั้งสิ้น 42 ผลงาน ดังนี้ 1.ประเภทชุมชน จำนวน 8 ผลงาน ประกอบด้วย 1.1 ชุมชนบ้านภูเขาแก้ว อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย 1.2 ชุมชนบ้านหัวทุ่ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ 1.3 ชุมชนบ้านท่าต้นธง อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย 1.4 ชุมชนโคกห้วยวังแสงและโคกหนองกุง อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น 1.5 ชุมชนตำบลกุดเสลา (ป่าชุมชนโคกทำเล) อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ 1.6 ชุมชนบ้านห้วยยาง อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี 1.7 ชุมชนตำบลหนองบัวสะอาด อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา และ 1.8 ชุมชนบ้านหลางตาง อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร
2.ประเภทบุคคล จำนวน 8 ผลงาน ประกอบด้วย 2.1 นายดวงแก้ว สมพงษ์ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน 2.2 นายเดชา จือเหลียง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม 2.3 นายอุดม ทาส่วย อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น 2.4 หลวงตาปพนพัชร์ จิรธัมโม อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร 2.5 นางสนิท ทิพย์นางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ 2.6 นายอุทัย บางเหลือ อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ 2.7 นายสุวัฒน์ ดาวเรือง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และ 2.8 นายเลื่อน มีแสง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา
3.ประเภทกลุ่มเยาวชน จำนวน 4 ผลงาน ประกอบด้วย 3.1 กลุ่มเยาวชนรักษาความสะอาดสู่ชุมชนไร้ถังขยะโรงเรียนอนุบาลทับสะแก อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 3.2 โรงเรียนชุมชนบ้านหายโศก (กลุ่มเยาวชนต้นกล้าภูมิรักษ์) อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์ 3.3 กลุ่มเยาวชนยิ้มแฉ่งให้ด้วยใจ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช และ 3.4 โรงเรียนบ้านป่าทุ่ง อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี
4.ประเภทงานเขียน ในครั้งนี้ไม่มีผลงานใดได้รับรางวัลดีเด่น โดยมีผลงานที่ได้รับรางวัลชมเชยทั้งสิ้น 4 ผลงาน ประกอบด้วย 4.1 ทุ่งหยีเพ็ง บ้านอุ่น ป่าเย็น โดย นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนรุ่งอรุณ 4.2 คืนเหง้าเหล่ากอ โดย วัฒนา ธรรมกูร (นามปากกา) 4.3 ป่า ดอย บ้านของเรา โดย นางวิรตี ทะพิงค์แก และ 4.4 มหัศจรรย์แห่งคราม โดย นายก่อคเณศ รุ้งสันเทียะ
5.ประเภทความเรียงเยาวชน มีผลงานได้รับรางวัลรวมทั้งสิ้น 9 ผลงาน แบ่งเป็น “เยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปี” จำนวน 4 ผลงาน ได้รับรางวัลดีเด่น 2 ผลงาน คือ 5.1 ความทรงจำที่หาซื้อไม่ได้ โดย น.ส.รัตนาภรณ์ พันธ์พิริยะ 5.2 ตุ้มกุ้ง ฮักบ้านเกิด โดย ด.ช.เทวา สามารถ และรางวัลชมเชย 2 ผลงาน คือ 5.3 เสน่ห์ของธรรมชาติ โดย ด.ญ.สุพรรษา แสงใหญ่ 5.4 จากแสนแสบสู่ป่าเขียว โดย ด.ช.อิทธิพัทธ์ กิตติศรีไสว
กับ “เยาวชนอายุระหว่าง 16-25 ปี” จำนวน 5 ผลงาน ได้รับรางวัลดีเด่น 2 ผลงาน คือ 5.5 แม่น้ำบางปะกง มหานทีแห่งชีวิต โดย นายกิตติ อัมพรมหา 5.6 บึงบัวบานและความสำราญของเด็กๆ โดย นายภัทรพล เชียงเจริญ และรางวัลชมเชย 3 ผลงาน คือ 5.7 สวนไผ่ของป้า โดย น.ส.สุดารัตน์ แสงสว่าง 5.8 เพียงในความทรงจำ โดย นายวิชัย เชอหมื่นกู่ 5.9 บ้านเล็กบนทางช้างผ่าน โดย น.ส.วารี คมขำ 6.ประเภทสื่อมวลชน จำนวน 2 ผลงาน ประกอบด้วย 6.1 Green Innovation & SD 6.2 Facebook : ลุงซาเล้งกับขยะที่หายไป
และ 7.รางวัล “สิปปนนท์ เกตุทัต” รางวัลแห่งความยั่งยืน จำนวน 7 ผลงาน ประกอบด้วย 7.1 ชุมชนบ้านขอใต้-ขอเหนือ อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง 7.2 ชุมชนบ้านเหล่าเหนือ อำเภอสอง จังหวัดแพร่ 7.3 ชุมชนตำบลจอมศรี อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี 7.4 กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมป่าชุมชน ริมฝั่งลำน้ำชี อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ 7.5 ชุมชนตำบลสงเปือย (ป่าชุมชนดงต่อ) อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร 7.6 ชุมชนตำบลวังตะกอ อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร และ 7.7 ชุมชนบ้านถ้ำตลอด อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
การประกาศผลรางวัลลูกโลกสีเขียวนั้นริเริ่มโดย “ปตท.” และต่อมาในปี 2553 ได้ยกระดับสู่การเป็น “สถาบันลูกโลกสีเขียว” ด้วยเห็นว่า การทำงานโครงการมักมีจุดสิ้นสุด แต่หากขับเคลื่อนด้วยรูปแบบสถาบัน จะเป็นเสมือนพันธกิจตอกย้ำและประกาศเจตนารมณ์ว่า จะเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้วยการเดินหน้าสานต่อภารกิจค้นหา ยกย่อง ชื่นชม และให้กำลังใจแก่คนทำดี ผู้ที่มีอุดมการณ์มั่นคงต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นแบบอย่างความดี ก่อให้เกิดการเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างกว้างขวางในสังคมตลอดไป
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการสถาบันลูกโลกสีเขียว และประธานกรรมการตัดสินผลงานรางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่ 20 กล่าวว่า การทำงานรางวัลลูกโลกสีเขียวในการสนับสนุนคนตัวเล็กๆ ให้ร่วมมือร่วมใจอนุรักษ์ดิน น้ำ ป่า มาตลอดและต่อเนื่องกว่า 2 ทศวรรษนั้น เป็นมิติของการทำงานที่สะท้อนการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมระดับสากล ซึ่งก็ยังเป็นประเด็นเหตุและผลกระทบที่หยิบยกขึ้นมาหารือในระดับเวทีนานาชาติอย่างต่อเนื่องหรือแม้แต่เวทีประชุมล่าสุด COP 26 ก็ตาม
“ในอนาคต คนและทรัพยากรจะยิ่งต้องพึ่งพิงกันมากขึ้น ด้วยสถานการณ์โรคระบาดที่ทำให้คนกลับคืนถิ่น การรู้ใช้ รู้รักษาทรัพยากรจึงเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกชุมชนต้องเร่งสร้างความตระหนักต่อการปรับตัวให้เข้ากับวิถีที่คนกับธรรมชาติจะอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน เพื่ออนาคตของลูกหลานไทย” ดร.สุเมธ กล่าว
ด้าน นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะกรรมการสถาบันลูกโลกสีเขียว กล่าวว่า บทบาทของสถาบันลูกโลกสีเขียวจะทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เนื่องจากวิกฤตโลกร้อนเป็นปัญหาระดับโลก ซึ่งนานาชาติล้วนตระหนักและให้ความสำคัญต่อแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
“ทุกคนทั่วโลกล้วนให้การยอมรับว่า ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์นั้นมีส่วนสำคัญอย่างมากในการช่วยลดหรือบรรเทาปัญหาโลกร้อนได้อย่างยั่งยืน ดังนั้น การดำเนินงานของสถาบันลูกโลกสีเขียวมีส่วนอย่างมากในการร่วมผลักดันประเทศไทยและโลกสู่สังคมคาร์บอนต่ำ” นายอรรถพล กล่าว
สำหรับการจัดพิธีมอบรางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่ 20 นั้นดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยจัดในรูปแบบ 4 ภาคเพื่อลดจำนวนผู้ร่วมงานในแต่ละเวที มีเงินรางวัลรวมทั้งสิ้นกว่า 4 ล้านบาท โล่รางวัลพร้อมใบประกาศนียบัตร และทำการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ “วารสารลูกโลกสีเขียว” ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาสนับสนุนงานด้านสิ่งแวดล้อม
ตามแนวทางการจัดงานที่ว่า “พลังเปลี่ยนโลก : สร้างวิถีใหม่ให้เราอยู่รอด”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี