เอ็มจี เดินหน้ารุกตลาด “อีวี” ชูระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ของประเทศจะแข็งแกร่ง ต้องมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย สถานีชาร์จครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ การพัฒนาและการจัดการแบตเตอรี่ที่ดี สร้างความรู้พื้นฐานและความเข้าใจไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ เผยตัวเลขยอดขายปีที่ผ่านมา 31,005 คัน เติบโต 9.5% เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์หลายรุ่นในปีนี้
มร. จาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ทิศทางและแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์โลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก มีการติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อช่วยในการขับขี่ (Autonomous) การเชื่อมต่อระหว่างคนและรถ (Connectivity) มากยิ่งขึ้น การใช้งานรถร่วมกัน (Sharing Economy) ได้รับการพูดถึงมากขึ้น รวมถึงการที่โลกกำลังเดินหน้าไปสู่เศรษฐกิจพลังงานสะอาด (Green Economy) และให้ความสำคัญกับ Emission Standard จากการตั้งเป้าหมายของแต่ละประเทศเพื่อทำให้เกิด Zero Emission จึงทำให้อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) เติบโตอย่างก้าวกระโดด”
ในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ จากนโยบายและจุดยืนที่ชัดเจนของภาครัฐ รวมถึงมาตรการและแนวทางสนับสนุนที่มีอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ประเทศไทย มีศักยภาพที่จะเติบโตทัดเทียมอุตสาหกรรมยานยนต์โลก เอ็มจีเชื่อว่าการให้ความสำคัญกับ “เทคโนโลยี” จะช่วยสร้างจุดเปลี่ยนและยกระดับประเทศไทยได้ โดยเราได้มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆ มาโดยตลอด ทำให้คนไทยได้ใช้รถที่มีระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะ และระบบการขับขี่อัตโนมัติ ที่ให้ความสะดวกสบายและความปลอดภัยกับผู้ขับขี่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ธุรกิจ Car Sharing กำลังเป็นที่จับตา รวมถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย ก็เป็นที่ยอมรับและมียอดจำหน่ายที่เพิ่มสูงขึ้น ถือได้ว่าในวันนี้ประเทศไทยก้าวมาไกลทัดเทียมกับประชาคมโลกอย่างที่เอ็มจีตั้งใจไว้
โดยนิยามอีวีของเอ็มจี คือ การลงมือทำทั้งระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าให้แข็งแกร่ง ที่ครอบคลุม ทั้งการพัฒนา และนำเสนอผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไฟฟ้าที่หลากหลาย เพื่อให้สอดรับกับรูปแบบการใช้งาน ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของแต่ละกลุ่มลูกค้า โดยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทุกรุ่น ที่จะเปิดตัวนับจากนี้ จะมี เทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ V2L ที่รถยนต์สามารถจ่ายไฟฟ้า ไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นได้
พร้อมกันนี้ เอ็มจีได้รับการอนุมัติจาก BOI ในการตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมถึงอยู่ในระหว่างการศึกษา และวิจัยในเรื่องของวิธีการจัดการแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วอีกด้วย รวมถึงการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อเป็นการปลดล็อคความกังวลเรื่องระยะทางการใช้งานต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ด้วยจำนวนสถานีชาร์จนอกบ้าน ที่มีให้บริการตลอดเส้นทาง โดยทุกๆ 150 กิโลเมตร จะต้องมีเครือข่ายสถานีชาร์จอย่างน้อย 1 แห่ง
นอกจากนี้ ยังได้สร้างความรู้พื้นฐานและความเข้าใจเกี่ยวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยมีแผนที่จะเข้าไปสร้างความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และเตรียมความพร้อมให้คนรุ่นใหม่เป็นกำลังสำคัญ ในการผลักดันสังคมยานยนต์ไฟฟ้าในไทย ให้เกิดขึ้นได้ไวมากยิ่งขึ้น รวมถึงเป็น ผู้ร่วมกำหนดมาตรฐานใหม่ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในอนาคต
“เอ็มจีตั้งเป้าที่จะผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย สู่ยุคใหม่ อันจะนำมาซึ่งการยกระดับขีดความสามารถของประเทศ เพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว (New Growth) โดยจะมุ่งนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ด้วยการผสมผสานความลงตัวของ เทคโนโลยี (Technology) ความทันสมัย (Fashion) และ คุณค่า (Value) เพื่อทลายกรอบความคิดเดิมๆ และพิสูจน์ให้เห็นว่ารถที่ดีต้องมอบประโยชน์สูงสุดให้กับผู้บริโภค และทำให้คนไทย มีทางเลือกในการเข้าถึงรถยนต์ ที่มาพร้อมนวัตกรรมในราคาที่เข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น”
อย่างไรก็ตามในปี 2564 เอ็มจีสามารถสร้างยอดขายรวม 31,005 คัน เติบโต 9.5% ถือเป็นแบรนด์รถยนต์เพียงไม่กี่แบรนด์ ที่มีตัวเลขอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น สามารถรั้งตำแหน่งในกลุ่มผู้นำรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยครองการเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 90% รวมทั้งสามารถติดตั้งสถานีชาร์จแบบเร็ว MG Super Charge ได้แล้วทั่วประเทศ จำนวน 120 แห่ง
สำหรับปี 2565 คาดว่าตลาดรถยนต์ในประเทศ จะเติบโตขึ้น โดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 800,000 – 850,000 คัน โดยในส่วนของเอ็มจี จะเน้นพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุม ทั้งเครื่องยนต์สันดาปและรถยนต์พลังงานทางเลือก เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้รถของคนไทย มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ในผลิตภัณฑ์ และการบริการควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจ ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี