เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2565 นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ(กคช.) ได้ชี้แจงกรณีบริษัทเพียงประกายก่อสร้าง จำกัด ยื่นหนังสือร้องทุกข์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อให้ดำเนินคดีกับการเคหะแห่งชาติ ที่เข้าแสวงหาผลประโยชน์ ในโครงการบ้านเอื้ออาทร จ.สมุทรปราการ (เทพารักษ์ 4)
นายทวีพงษ์ ยืนยันว่า กคช.ดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยกคช. สามารถปรับปรุงทรัพย์สินของตนเองในโครงการดังกล่าวได้
สำหรับความเป็นมาสืบเนื่องจาก กคช.ทำสัญญาร่วมดำเนินกิจการ กับบริษัท เพียงประกายก่อสร้าง เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2549 เพื่อจัดสร้างโครงการบ้านเอื้ออาทร จ.สมุทรปราการ (เทพารักษ์ 4)ประกอบด้วย อาคารชุดพักอาศัยสูง 5 ชั้น จำนวน 5,830 หน่วย
โดย ส่วนที่ 1 การจัดหาที่ดิน บริษัทได้ทำการโอนที่ดินให้กับกคช. และกคช.ได้ชำระเงินค่าที่ดินครบถ้วนแล้ว จึงถือว่ากคช.เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยสมบูรณ์
ส่วนที่ 2 รับจ้างก่อสร้าง แบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 และ 2 ก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัย จำนวน 4,529 หน่วย ค่าก่อสร้าง 1,589,912,000 บาท ระยะที่ 3 ก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัย จำนวน 1,121 หน่วย ค่าก่อสร้าง 384,295,200 บาท กำหนดระยะเวลา 480 วัน
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการ ระยะที่ 1 และ 2 ซึ่งได้มีการขอขยายระยะเวลาก่อสร้างออกไปอีก 5 ครั้ง รวมจำนวน 900 วัน รวมระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญาทั้งสิ้น 1,440 วัน (นับตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. 2549 - วันที่9 พ.ค. 2553) เมื่อครบกำหนดสัญญาปรากฏว่าบริษัททำงานได้เพียงร้อยละ 70.918 ของงานทั้งหมด ถือเป็นการปฏิบัติผิดสัญญา ต่อมากคช.มีหนังสือบอกเลิกสัญญาวันที่ 24 ม.ค. 2554 ทั้งนี้ สิ่งปลูกสร้างในโครงการ จึงตกเป็นกรรมสิทธิ์ของการเคหะแห่งชาติตามสัญญาก่อสร้าง เนื่องจากมีการส่งมอบงวดงานให้กับกคช.ไปแล้ว
จากนั้นกคช.ได้ฟ้องร้องดำเนินคดีกับ บริษัท และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)ผู้ค้ำประกัน ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อเรียกค่าเสียหายกรณีผิดสัญญา หลังจากนั้น ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2562 ให้บริษัทชำระเงินค่าเสียหายจากการผิดสัญญา จำนวน 131,551,444.52 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยให้ธนาคารกรุงเทพ ร่วมกันหรือแทนกันชดใช้เงินจำนวน 71,623,775 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ให้แก่กคช. และให้กคช.ชำระเงินจำนวน 28,712,333 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีแก่บริษัท ซึ่งเป็นค่างานที่ทำได้จริง และยังไม่ได้เบิก
ต่อมา กคช. และบริษัท เพียงประกายก่อสร้าง จำกัด ใช้สิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลต่อศาลปกครองสูงสุด ส่วนธนาคารกรุงเทพ ไม่ใช้สิทธิอุทธรณ์ โดยยินยอมชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้แก่ กคช.แล้ว จำนวน 103,684,145 บาท
“ปัจจุบันคดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด เพราะฉะนั้นการเคหะแห่งชาติสามารถปรับปรุงทรัพย์สินของตนเองได้ ไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่กำลังฟ้องร้องกันอยู่”นายทวีพงษ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี