นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ SME (SME SentimentIndex : SMESI) ประจำเดือนธันวาคม 2564ว่าดัชนีความเชื่อมั่น SMESI ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ระดับ 50.5 มาอยู่ที่ระดับ 51.8 ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ปรับเพิ่มขึ้นเกินระดับค่าฐาน (50) ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น เกือบทุกภาคธุรกิจ และทุกภูมิภาคอย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์3 เดือนข้างหน้ากลับลดลงจากความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
ปัจจุบันความเชื่อมั่นปรับตัวเพิ่มขึ้นจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่และโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่กระตุ้นให้ผู้คนออกมาใช้จ่ายในการท่องเที่ยวมากขึ้น ส่งผลดีต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะสาขาโรงแรม/ที่พัก ที่มีปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาค ประกอบกับการให้บริการรถรับเหมา และสาขาสันทนาการ/วัฒนธรรม/การกีฬา ที่ขยายตัว โดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคใต้ที่มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ อย่างไรก็ตามการใช้จ่ายหมวดสินค้าอุปโภค-บริโภคค่อนข้างทรงตัว เนื่องจากวงเงินของโครงการ “คนละครึ่ง” ใกล้หมดลง
องค์ประกอบของดัชนีด้านคำสั่งซื้อ ปริมาณการผลิต/การค้า/บริการ การลงทุน กำไร และการจ้างงาน ปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 59.1 56.3 53.2 55.2 และ 49.9 ตามลำดับ ขณะที่องค์ประกอบด้านต้นทุนยังคงมีค่าดัชนีลดลงอย่างต่อเนื่อง อยู่ที่ระดับ 37.3 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ SME ภาคการผลิต
ภาคการค้า ภาคการบริการ และธุรกิจการเกษตร ในเดือนนี้เพิ่มขึ้นเกือบทุกสาขามาอยู่ที่ระดับ 52.3 50.4 52.1 และ 57.2 ตามลำดับ ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลดี ได้แก่ กำลังซื้อของผู้บริโภค จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลดีต่อภาวะธุรกิจ SME เนื่องจากการฟื้นตัวของผู้บริโภคที่เริ่มทยอยออกมาใช้จ่ายตามสถานที่ต่างๆ มากขึ้น อีกทั้งธุรกิจมีการปรับรูปแบบการให้บริการที่นำเทคโนโลยีมาใช้ในกิจการ ทำให้ขยายกลุ่มตลาดได้หลายช่องทางมากขึ้น
ปัจจัยที่ส่งผลลบ ได้แก่ ภาวะราคาสินค้า/วัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งราคาน้ำมันที่กระทบต่อต้นทุนการดำเนินธุรกิจ และค่าครองชีพของประชาชน รวมทั้งมาตรการภาครัฐ เช่น โครงการ “คนละครึ่ง” สิ้นสุดลง ทำให้เกิดการชะลอการใช้จ่าย อีกทั้งความไม่มั่นใจในการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน ในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2564
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นฯ ของผู้ประกอบการ SME รายภูมิภาค ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกภูมิภาค ได้แก่ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ของภาคเหนือ ปัจจุบันอยู่ที่ 54.5 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 50.3 มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นชัดเจนในกลุ่มภาคบริการ
ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ของภาคกลาง ปัจจุบันอยู่ที่ 50.3 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 48.4 มีความต้องการเดินทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมมากขึ้น
ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ของภาคใต้ ปัจจุบันอยู่ที่ 48.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 46.4 จากปัจจัยบวกช่วงเทศกาล และวันหยุดยาวสิ้นปี ทำให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวฟื้นตัว
ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ของภาคตะวันออก ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 48.9 ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 48.3 จากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทำให้ความต้องการท่องเที่ยวโดยเฉพาะที่ใกล้กรุงเทพฯ ขยายตัว
ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ของเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลปัจจุบันอยู่ที่ 52.3 จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 52.1 ภาพรวมธุรกิจค่อนข้างทรงตัวเพราะมีการงดจัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลสิ้นปีในพื้นที่ ประกอบกับผู้คนเดินทางออกจากการพื้นที่เพื่อกลับภูมิลำเนา
ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 53.6 จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 53.4 เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเพราะแนวโน้มการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการในหลายสาขาเริ่มกังวลต่อความไม่แน่นอนโดยเฉพาะภาคการค้าที่ลดการสต๊อกสินค้าให้เพียงพอต่อการขายวันต่อวันเท่านั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี