นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่าในปี 2564 รัฐวิสาหกิจมีผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมจำนวน 307,185 ล้านบาท หรือคิดเป็น 88%ของกรอบการลงทุนทั้งปี โดย สคร. ได้ติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจอย่างใกล้ชิด รวมถึงเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้เกิดการลงทุนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในปีที่ผ่านมา
นางสาวปิยวรรณ ล่ามกิจจา ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ กล่าวเพิ่มเติมในรายละเอียดว่าการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจปี 2564 ของรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน จำนวน 9 แห่ง ได้สิ้นสุดการดำเนินการแล้ว โดยมีผลการเบิกจ่ายสะสมตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม 2564 จำนวนทั้งสิ้น 161,724 ล้านบาท หรือคิดเป็น 92% ของกรอบการลงทุนทั้งปี ส่งผลให้ภาพรวมการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจจำนวน 43 แห่ง ในปี 2564 สูงถึง 307,185 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 กว่า 53,363 ล้านบาท
สำหรับการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2565 (ตุลาคม - ธันวาคม 2564) รัฐวิสาหกิจปีงบประมาณมีผลการเบิกจ่ายสะสมจำนวน 14,263 ล้านบาท หรือคิดเป็น 95% ของแผนการเบิกจ่ายสะสม
ผู้อำนวยการ สคร. กล่าวเพิ่มเติมว่าในการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ(คณะกรรมการฯ) ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565 ที่ผ่านมาคณะกรรมการ ได้มีนโยบายให้ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจกำกับการดำเนินการอย่างใกล้ชิดให้รัฐวิสาหกิจเร่งขออนุมัติปรับปรุงงบลงทุนระหว่างปี 2565 ให้แล้วเสร็จ โดยให้เสนอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมชาติภายในไตรมาสแรกของปีบัญชี และปรับแผนการลงทุนให้สามารถเบิกจ่ายได้เร็วขึ้นในช่วงไตรมาส 1 และ 2 ของปี 2565 (Front - Loaded) เพื่อให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงในการดำเนินโครงการและเบิกจ่ายงบลงทุนโดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจที่มีกรอบการลงทุนสูงและมีปัญหาการเบิกจ่ายล่าช้าในปี 2564 เพื่อให้รัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายงบลงทุนเป็นไปตามเป้าหมายและเป็นเครื่องมือสำคัญก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
อนึ่ง สำหรับการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2565 (ตุลาคม-ธันวาคม 2564) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 557,173 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 29,651 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.6% และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.6% โดยการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ สูงกว่าประมาณการ 49,695 และ 6,362 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13.7% และ 15.1% ตามลำดับ จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และการนำส่งรายได้ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)ที่สูงกว่าประมาณการเป็นสำคัญ
ขณะที่การจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต และส่วนราชการอื่น ต่ำกว่าประมาณการ 9,447 และ 5,384 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6.6% และ 16.5% ตามลำดับ เนื่องจากประมาณการได้รวมผลของการปรับโครงสร้างภาษีไว้ ซึ่งจำเป็นต้องชะลอการดำเนินการออกไป รวมถึงได้มีการปรับลดอัตราค่าปรับ และค่าธรรมเนียมของส่วนราชการเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี