กระแสตอบรับดีอย่างมาก สำหรับ SUZUKI XL7, Multi-Dynamic Crossover รุ่นแรกของซูซูกิ มาพร้อมกับดีไซน์ที่ล้ำสมัย สมรรถนะที่โดดเด่น รวมถึงฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ ทั้งในเมือง และนอกเมือง
SUZUKI XL7 รถยนต์ครอสโอเวอร์ 3 แถว 7 ที่นั่ง โดดเด่นด้วย กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ สีดำผสมโครเมียม ไฟหน้าLED ปรับระดับองศาของไฟต่ำได้ พร้อม Daytime Running Light ไฟตัดหมอกหน้า ตกแต่งใต้กันชนด้วยวัสดุสีเงินรอบคัน ราวหลังคา ไฟท้าย LED พร้อมกับไฟเบรกแนวตั้ง (Light guides) ซุ้มล้อสีดำ และล้ออะลูมิเนียมอัลลอยแบบทูโทน ขนาด 16 นิ้ว
ภายในตกแต่งวัสดุด้วยลาย Carbon Fiber คิ้วโครเมียม รวมถึงติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ที่รองรับทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน อาทิ มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงผลแจ้งสถานะข้อมูลสำคัญของตัวรถ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรง D-Shape ปรับระดับสูง-ต่ำได้ พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และการสั่งการบนพวงมาลัย รวมถึงสตาร์ทและดับเครื่องยนต์ ด้วยระบบ Keyless Push Start มาพร้อมระบบ Keyless Entry ประตูเปิด-ปิดโดยไม่ต้องกดกุญแจรีโมท
ขุมพลังเครื่องยนต์ K15B ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้า/6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 138 นิวตัน-เมตร
ที่ 4,400 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ที่มีการปรับตั้งเครื่องยนต์ และอัตราทดเกียร์ใหม่ รวมทั้งแพลตฟอร์ม HEARTECT เทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของซูซูกิ รวมถึงระบบช่วงล่างปรับปรุงใหม่ พร้อมเหล็กกันโคลงด้านหน้า (Front Stabilizer) ขนาดใหญ่
ด้านความปลอดภัย มีให้ครบครัน อาทิ ระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรก ABS พร้อมระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรก เสริมด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัว ESP และการปรับแต่ง module ในพวงมาลัย ที่เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ให้เข้าโค้งได้แม่นยำ รวมทั้งระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน(Hill Hold Control) จุดยึดเบาะสำหรับเด็กISOFIX และ Top tether กล้องมองภาพพร้อมเซ็นเซอร์ ที่กะระยะในขณะถอยหลัง รวมถึงระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
ช่วงการทดสอบหลังจากตรวจ ATK กันเรียบร้อยแล้ว ก็มุ่งหน้าสู่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยทริปนี้จะเน้นสมรรถนะการขับขี่ ทั้งกำลังของเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร พละกำลังเหลือเฟือและประหยัดมากขึ้นกว่าเดิม แพลตฟอร์ม HEARTECT รวมถึงระบบช่วงล่างปรับปรุงใหม่ พร้อมเหล็กกันโคลงด้านหน้าขนาดใหญ่ ที่ช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม ตลอดจนการออกแบบความสูงให้มีระยะห่างจากพื้นถึงตัวรถ มีความสูงถึง 200 มิลลิเมตร ทำให้การขับขี่ทั้งออนโรด และกึ่งออฟโรด สามารถทำได้ดีทีเดียว เรียกได้ว่าเปลี่ยนจากบุคลิกเดิมๆ รถสแตนดาร์ดจากโรงงาน มาเป็นขาลุยได้อย่างน่าชื่นชม สามารถตอบสนองการขับขี่ได้ในทุกไลฟ์สไตล์
ในส่วนของพื้นห้องโดยสารกว้างขวาง ผู้เขียนสูง 173 ซม. ลองเปลี่ยนไปนั่งแถวสอง สะดวกสบายมาก ทั้งช่วงขาเหยียดได้สุดๆ ไปเลย รวมทั้งบริเวณเหนือศีรษะ ก็พื้นที่ยังเหลือบานหน้าต่างขนาดใหญ่ มองเห็นทัศนียภาพต่างๆ ได้ชัดเจนเหมือนกับดูทีวีจอใหญ่ ขนาด 32 นิ้วกันเลยทีเดียวถึงแม้ว่าอากาศจะร้อนแค่ไหน แต่หมดกังวลได้เลย เพราะมีระบบปรับอากาศ แบบอัตโนมัติ รวมทั้งติดตั้งเพิ่มด้านหลัง สำหรับที่นั่งแถวสองและแถวสาม เพิ่มความเย็นสบายได้อย่างทั่วถึง ตลอดจนมีช่องเครื่องดื่มมากถึง 8 ตำแหน่ง นอกจากนี้ เบาะนั่งแถวที่สอง ปรับพับแยกเบาะแบบ 60:40 สามารถเลื่อนสไลด์ได้ 240 มิลลิเมตร เพื่อการเข้า-ออกแถวที่สาม ได้สะดวกและง่ายดาย เบาะนั่งแถวที่สาม ปรับพับแบบ 50:50
นอกจากนี้ ยังมีหน้าจอสัมผัส ขนาด 10 นิ้วใหญ่ ที่สุดในเซกเม้นท์เดียวกัน มาพร้อมระบบปรับแต่งเสียง และประมวลผลในแบบดิจิทัล (Digital Sound Processor) รวมถึงฟังก์ชั่นเชื่อมต่อ Bluetooth, Apple CarPlay, Android Auto ตลอดจนมีช่องเชื่อมต่อ USB และ HDMI ที่บริเวณคอนโซลหน้า รวมทั้งมีช่องจ่ายไฟสำรอง 12V มากถึง3 ตำแหน่ง โดยความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน น่าจะเพิ่มช่องเชื่อมต่อ USB ในตำแหน่งแถวสองและสาม เพราะบางอุปกรณ์จำเป็นต้องใช้มากกว่าช่องจ่ายไฟสำรอง 12 V
โดยสรุปแล้ว SUZUKI XL7 เป็นรถครอสโอเวอร์ ที่น่าสนใจอีกหนึ่งรุ่น ด้วยดีไซน์ที่ ล้ำสมัย มาพร้อมกับสมรรถนะที่โดดเด่น รวมถึงฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ราคาจำหน่าย 779,000 บาท ถ้าชอบต้องไปลองขับก่อนตัดสินใจ
นิติ โมราวรรณ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี