นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า
ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย(ภาคเอกชน)เดือนกุมภาพันธ์ 2565 พบว่าดัชนีทุกรายการลดลง ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และต่ำสุดในรอบ 5 เดือน นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 จากความกังวลใน 3 ปัจจัยหลัก คือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้ราคาน้ำมันโลกสูงขึ้นและกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า เพิ่มแรงกดดันต่อการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจโลกให้ช้าลงหรือชะลอตัวลง อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อการส่งออกและเศรษฐกิจไทยในอนาคต รวมถึงการที่ระดับราคาน้ำมันสูงขึ้นและปัญหาราคาสินค้าแพง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงต่อเนื่อง
ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวม (CCI) ลดลงจากระดับ 44.8 เดือนมกราคม เป็น 43.3 ในเดือนกุมภาพันธ์ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบัน ลดลงจาก 28.5 มาอยู่ที่ 27.5 ดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคตลดลงจากระดับ 52.5 มาอยู่ 50.8 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 37.2 40.1 และ 52.6 ตามลำดับ ลดลงจาก 38.7 41.4 และ 54.4 ตามลำดับ สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยโดยรวมอยู่ที่ 36.1 จากระดับ 37.2 ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยในปัจจุบัน อยู่ที่ 36.7 จาก 38.1 ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยในอนาคต อยู่ระดับ 35.5 จาก 36.2
“ผู้บริโภคยังไม่มั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสหางานทำ และรายได้ในอนาคต ล้วนมาจากความกังวลในวิกฤตโควิดในไทยและทั่วโลก จะส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยและการจ้างงานมีโอกาสฟื้นตัวได้ช้า ซ้ำเติมด้วยปัญหาสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนอาจส่งผลให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงต่ำกว่าเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ระดับ 3.5-4.5%” นายธนวรรธน์กล่าว
ข้อเสนอที่ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลเร่งดำเนินการคือ หาแนวทางป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากสงครามรัสเซียกับยูเครน ออกมาตรการแนวทางการดูแลผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาราคาน้ำมัน ราคาก๊าซหุงต้มค่าไฟฟ้า รวมถึงภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ออกมาตรการบรรเทาภาระหนี้สิน แนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนให้ครอบคลุมทุกมิติเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ เร่งรัดการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของรัฐให้มีเม็ดเงินกระจายลงไปในพื้นที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี