เริ่ม17มี.ค.!ขึ้นราคา‘ไข่ไก่’คละหน้าฟาร์มอีกฟองละ10สตางค์
16 มีนาคม 2565 สมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ออก ประกาศราคาแนะนำไข่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ฟองละ 3.30 บาท โดยมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (17 มีนาคม 2565) ซึ่งเป็นการประกาศราคาหลังจากที่สมาคมผู้เลี้ยง ผู้ผลิต ผู้ค้า รวมถึงสหกรณ์ต่างๆหารือกับกรมการค้าภายในช่วงบ่ายวันนี้ (16 มีนาคม 2565) เพื่อพิจารณาคำขอของผู้เลี้ยงที่ให้ปรับ ซึ่งตามข้อเสนอของสมาคมฯได้เสนอให้กรมการค้าภายในพิจารณาจากราคาจากฟองละ 3.10 บาท ขึ้นอีก 20 สตางค์ เป็น 3.30 บาท แต่กรมการค้าภายในเห็นว่าจากต้นทุนที่กรมปศุสัตว์กำหนดไว้ไข่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ 2.94 บาทต่อฟอง จึงอนุมัติให้สมาคมฯปรับเพิ่มเพียง10 สตางค์ต่อฟอง ทำให้ไข่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ 3.20 บาทเท่านั้น
ด้านนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ รวมถึงสหกรณ์ต่างๆ ว่า สืบเนื่องจากผู้เลี้ยงไก่ไข่ทั้งรายกลางและรายย่อยได้แจ้งให้กรมการค้าภายในทราบว่าขณะนี้ราคาวัตถุดิบมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก เป็นเหตุให้ต้นทุนการผลิตไข่ไก่สูงขึ้นจนอาจไม่สามารถรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นได้ จึงขอปรับราคาจำหน่ายหน้าฟาร์มให้อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับต้นทุนการเลี้ยงที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจากการหารือร่วมกันพบว่าต้นทุนการเลี้ยงไก่ไข่ปรับสูงขึ้นจริงตามที่ผู้เลี้ยงได้แจ้ง โดยกรมปศุสัตว์แจ้งยืนยันต้นทุนที่ 2.94 บาทต่อฟอง
ทั้งนี้ มีสาเหตุจากสภาวะอากาศร้อนทำให้อัตราการให้ไข่ลดลงและมีขนาดที่เล็กลง และราคาวัตถุดิบหลายชนิดปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ดังนั้นเพื่อลดภาระของผู้เลี้ยงให้สามารถยังคงเลี้ยงต่อไปได้และไม่เป็นภาระกับผู้บริโภคมากเกินไป จึงมีข้อตกลงร่วมกันกำหนดราคาไข่คละหน้าฟาร์มที่ไม่เกิน 3.20 บาทต่อฟอง ในส่วนของราคาจำหน่ายปลีกไข่ไก่เบอร์ 3 เฉลี่ยทั่วประเทศ ขณะนี้ยังอยู่ที่ 3.47 บาทต่อฟอง เป็นราคาที่สอดคล้องกับราคาหน้าฟาร์ม
สำหรับสถานการณ์ข้าวโพด ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในอาหารไก่เนื้อและไก่ไข่ ขณะนี้จะมีข้าวโพดหลังนาออกมาในช่วง 2-3 เดือนนี้ ประมาณ 7-8 แสนตัน ก็จะช่วยผ่อนคลายสถานการณ์ด้านวัตถุดิบลง และผลจากการหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 ที่มีความเห็นร่วมกันในการผ่อนคลายมาตรการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ก็จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยแก้ไขปัญหาสถานการณ์วัตถุดิบอาหารสัตว์ในขณะนี้ และหากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนผ่อนคลายลงก็จะช่วยให้ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ในตลาดโลกผ่อนคลายลงเร็วขึ้น
-005